"เอเอ็มอาร์ เอเซีย" เผยแนวโน้มปี 65 กวาดรายได้กว่า 1,300 ล้านบาท อานิสงส์ทยอยรับรู้รายได้ Backlog ที่มีกว่า 2,360 ล้านบาท ผู้บริหารประกาศเดินหน้าขยายการลงทุน New S-Curve ตามแผน 3 ปี (2566-2568) มั่นใจช่วยหนุนรายได้โต ลุ้นคว้า PPA โซลาร์ฟาร์มร่วมกับพันธมิตรเร็วๆ นี้ พร้อมลุยโซลาร์รูฟท็อป-โซลาร์ลอยน้ำ วางเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 ส่วนโครงการขายน้ำดิบในเขต EEC คาดก่อสร้างเสร็จภายในกลางปีหน้า โกยรายได้กว่าปีละ 100 ล้านบาท พร้อมลั่นโครงการ MACharge ช่วยเติมเต็มและเปิดมิติใหม่ให้ธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าของไทย
นายมารุต ศิริโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าสามารถสร้างรายได้กว่า 1,300 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้งานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 2,360 ล้านบาท เทียบสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 1,880 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568 พร้อมกับเริ่มขยายไลน์ธุรกิจเข้าสู่ New S-Curve ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้ประจำ (Recurring Income) และสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า (2566-2568) ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดผ่านธุรกิจด้านพลังงาน โดยประเมินว่าธุรกิจใหม่จะช่วยผลักดักดันรายได้เติบโตต่อเนื่อง
“ทีมผู้บริหารได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาในการต่อยอดธุรกิจและปรับโมเดลธุรกิจใหม่ให้มีความสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ สร้างภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น โปรเจกต์ MACharge ที่เป็นแพลตฟอร์มครบวงจร ทั้ง EV swapping station และ MACharge Application โครงการโซลาร์รูฟท็อปและโซลาร์ลอยน้ำ รวมถึงการจัดจัดหน่ายน้ำดิบผ่านระบบท่อน้ำให้แก่นิคมอุตสาหกรรมผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ”
โดยที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการลงทุนเพิ่มในบริษัท เทอราวัตต์ เอสพี จำกัด จากสัดส่วน 25% เป็น 75% วงเงินไม่เกิน 60 ล้านบาท เพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลภายในช่วงต้นปีหน้า อีกทั้งยังมีแผนเข้ารุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในโรงงานอุตสาหกรรม และโซลาร์ลอยน้ำ โดยวางเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566
ขณะเดียวกัน AMR ยังรุกเข้าสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการดำเนินธุรกิจการขายและให้บริการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แพลตฟอร์ม “มาชาร์จ” (MAcharge) ที่มาพร้อมกับสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ และระบบซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการข้อมูลการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มเดินหน้าธุรกิจอย่างเต็มที่ในปี 2566 ถือเป็นการเข้ามาเติมเต็มและเปิดมิติใหม่ให้ธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการให้บริการอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท อีสเทิร์น โปร วอเตอร์ซัพพลาย จำกัด (EPW) เพื่อจัดจำหน่ายน้ำดิบให้โรงงานอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเริ่มโครงการจากการวางท่อส่งน้ำสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร คาดก่อเสร็จสิ้นกลางปี 2566 พร้อมรับรู้รายได้จากการจำหน่ายน้ำได้ทันที ซึ่งท่อส่งดังกล่าวจะสามารถส่งน้ำได้สูงสุดถึง 70,000 ลบ.ม.ต่อวัน และสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท/ปี บริษัทฯ ยังมีการศึกษาโครงการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจที่จะผลักดันรายได้ขึ้นอีกด้วย