xs
xsm
sm
md
lg

BBIK ทุ่ม 1.5 พันล้านบาท ซื้อ Innoviz-ธุรกิจ Digital Deliver เครือ MFEC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บลูบิค กรุ๊ป ทุ่มกว่า 1,500 ล้านบาท ซื้อหุ้นอินโนวิซ โซลูชั่น-ธุรกิจ Digital Deliver ในเครือ บมจ.เอ็มเอฟอีซี (MFEC) ลุยพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและแอปพลิเคชัน เพิ่มขีดความสามารถการส่งมอบงาน และบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศรับเศรษฐกิจดิจิทัลทั้งในและต่างประเทศ

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK แจ้งว่า BBIK เข้าซื้อกิจการในสัดส่วน 100% ของ 2 บริษัทชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับประเทศ คือ หน่วยธุรกิจ Digital Delivery ของบริษัท เอ็มเอฟอีซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC (ที่ปรึกษาและพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร) ซึ่ง BBIK ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,595 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการ 2 บริษัท คือ บริษัท อินโนวิซ โซลูชั่น จำกัด (Innoviz) ในธุรกิจการให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาระบบ ERP และธุรกิจ Digital Deliver ในเครือ บมจ.เอ็มเอฟอีซี (MFEC)

โดย BBIK จะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมด 100% ของหุ้นทั้งหมดของ Innoviz มูลค่ารวมไม่เกิน 904 ล้านบาท คิดเป็นราคาเฉลี่ยหุ้นละไม่เกิน 9,040 บาท ชำระเงินเป็นเงินสด 3 Trnache คืองวดที่ 1 เข้าซื้อในสัดส่วน 55% โดยใช้เงินกู้ยืมจากสถาบัน ในราคาซื้อขายหุ้นที่เท่ากับกำไรสุทธิของ Innoviz ในปี 2565 คูณด้วย 12 เท่าของ P/E และคูณด้วยสัดส่วนหุ้น 55% ขณะงวดที่ 2 ในสัดส่วน 30% โดยราคาซื้อขายหุ้นจะเท่ากับกำไรสุทธิของ Innoviz ในปี 2566 คูณด้วย 16 เท่าของ P/E และคูณด้วยสัดส่วนหุ้น 30% และงวดสุดท้ายในสัดส่วน 15% ซึ่งราคาซื้อขายหุ้นจะเท่ากับกำไรสุทธิของ Innoviz ในปี 2566 คูณด้วย 16 เท่าของ P/E และคูณด้วยสัดส่วนหุ้น 15% สำหรับการชำระค่าหุ้นในงวดที่ 2 และ 3 นั้น บริษัทฯ จะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน คาดแล้วเสร็จภายในไม่เกินวันที่ 15 มี.ค.66

ขณะที่การซื้อกิจการธุรกิจการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และแอปพลิเคชัน (Software Development) โดยเข้าซื้อหุ้น บริษัท วัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด (VDD) จากบริษัท อีสท์วินด์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และจะมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ MFEC จโอนทรัพยสินทั้งหมดรวมถึงพนักงานในการประกอบธุรกิจการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และแอปพลิเคชัน (Software Development) ในหน่วยธุรกิจ Digital Delivery มูลค่าลงทุนรวม 691 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าหุ้นละ 1,382 บาท

โดยคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 10 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท มูลค่ารวม 5 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน และ/หรือประชาชนทั่วไป (Public Offering) และ/หรือบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการลงทุนหรือในกิจการ และ/หรือบริษัทอื่น ใช้ในการขยายกิจการในอนาคตของบริษัทฯ และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

“การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของบลูบิคนั้นเป็นไปตามแผนการลงทุนที่บริษัทฯ ได้วางไว้ เพื่อรองรับกระแสการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและความต้องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้สร้างข้อได้เปรียบในภาคธุรกิจที่ยังคงแรงต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกเหล่านี้ทำให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่ได้สะท้อนผ่านผลประกอบของบริษัทฯ ที่สามารถทำนิวไฮในหลายไตรมาสติดต่อกัน ดังนั้น การเข้าซื้อกิจการของทั้ง 2 บริษัทจะทำให้การเติบโตนับจากนี้ของบลูบิค โดยเฉพาะในปี 2566 เป็นไปอย่างน่าจับตามอง จากจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี เป็นการตอกย้ำความเป็น Tech Company ที่มุ่งเน้นการเป็น Venture Builder ระดับสากล” นายพชร กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น