บอร์ด “เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป ” ไฟเขียวเพิ่มทุน 45 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จัดสรรหุ้นให้ Echelon Capital Holding Limited เพื่อเข้าถือหุ้น 22.145 % เพื่อนำเงินรองรับการขยายงานและชำระหนี้
บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน ) หรือ ACAP แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ว่าบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุน 45 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 158,205,580 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 203,205,580 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด หรือ Private Placement
โดยหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว จะจัดสรรให้กับ Echelon Capital Holding Limited ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท และราคาเสนอขายมอบหมายให้คณะกรรมการบริษัทหรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นผู้กำหนดคำเสนอขายหุ้น ซึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดหุ้นสามัญของบริษัท โดยราคาตลาดหุ้นสามัญของบริษัท กำหนดไว้เท่ากับราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกันแต่ไม่เกิ 15 วัน ก่อนวันเสนอขายหุ้น
ทั้งนี้ หากราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนPP ต่ำกว่าร้อยละ90 ของราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทก่อนวันเสนอขายต่อผู้ลงทุน บริษัทมีหน้าที่ห้ามมิให้ผู้ลงทุนนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้รับจากการเสนอขายทั้งหมดออกขายภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Silent Period ซึ่งภายหลังจากวันที่หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเริ่มทำการเทรดในตลาดหลักทรัพย์ครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือน ผู้ลงทุนจึงจะสามารถขายหุ้นที่สั่งห้ามได้ในจำนวน ร้อยละ 25
ทั้งนี้ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนข้างต้น ทั้งหมด ผู้ลงทุนจะถือหุ้นใน ACAP ไม่เกิน 90 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 22.145 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมดของบริษัท
สำหรับการเพิ่มทุนดังกล่าว ACAP มีแผนจะใช้เงินที่ได้รับใช้เป็นทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงานของบริษัทเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและเสถียรภาพของฐานะทางการเงินของบริษัท อีกทั้งรองรับการดำเนินงานปกติในธุรกิจหลัก รวมถึงต่อยอดและขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคตรวมทั้งเพื่อใช้ลงทุนในโครงการต่าง ๆ และชำระคืนหนี้เงินกู้ยืม
ดังนั้น ACAP เรียกประชุมผู้ถือหุ้น 29 ธันวาคม 2565 เพื่อขอมติในเรื่องดังกล่าว