บริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งประกอบธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ได้ถูกอัยการเขตเมืองแมนฮัตตัน ทำการตรวจสอบล่วงหน้านานหลายเดือนแล้ว ก่อนที่ FTX จะถึงจุดพีครีบชิงประกาศล้มละลาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงถึงแหล่งข่าว ระบุว่าสำนักงานอัยการเขตใต้พื้นที่แมนฮัตตัน ของรัฐนิวยอร์กซึ่งนำโดยนายเดเมียน วิลเลียมส์ ได้ใช้เวลานานหลายเดือนในการตรวจสอบข้อมูลธุรกิจของ บริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่ง FTX ได้มีการเทเงินเข้าไปลงทุนในบริษัทต่างๆมากมาย และยังได้ก่อตั้งบริษัทลูกอีกจำนวนหลายแห่งในการให้บริการซื้อขายคริปโตฯ ทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ โดยการตรวจสอบมุ่งเน้นไปยังประเด็นที่ว่า FTX ดำเนินการตามข้อกฎหมาย Bank Secrecy Act ของสหรัฐหรือไม่
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานั้น ทางการสหรัฐใช้กฎหมายดังกล่าว เพื่อกำหนดให้สถาบันการเงินใช้มาตรการป้องกันการฟอกเงินและการระดมเงินเพื่อการก่อการร้าย และเพื่อทำการตรวจสอบแพลตฟอร์มคริปโตฯ ที่กล่าวอ้างอย่างผิดๆ ว่าไม่ได้ให้บริการแก่ลูกค้าในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ทางอัยการยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสรุปรายละเอียด เนื่องจากกังวลต่อรูปคดีและการพิจารณาของศาล หลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบ FTX โดยก่อนที่ทางบริษัทจะยื่นขอล้มละลายมีข้อกังวลสงสัยถึงสถานะสภาพคล่องทางการเงิน และส่งผลให้ตลาดคริปโตฯ ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง รวมทั้งทำให้เกิดคำถามตามมาว่า บริษัทดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ในการปกป้องสินทรัพย์ของลูกค้า
ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา FTX ได้ยื่นเรื่องต่อศาลสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลาย โดยนายแซม แบงค์แมน-ฟรายด์ ซีอีโอของบริษัทได้แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการประกาศลาออก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศยกเลิกข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการของ FTX