บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กรุ๊ปฯ ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) จัดเสวนาในหัวข้อมิติใหม่ของการลงทุน “หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน” โดยเป้าหมายของการจัดเสวนาในครั้งนี้เพื่อต้องการให้ข้อมูลกับผู้ลงทุน และรับทราบถึงภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ (หุ้นกู้) เพื่อความยั่งยืน หรือ (ESG Bond) และหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bonds : SLB) รวมถึงสร้างการรับรู้ให้นักลงทุนว่าเมื่อเข้ามาลงทุนแล้วจะทำให้เกิดผลกระทบด้านดีต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และสร้างความยั่งยืนได้อย่างไร
น.ส.อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาด ESG Bond ได้แก่ Green bond, Social bond, Sustainability bond และ Sustainability-Linked Bond ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 มีมูลค่าการออกรวมทั้งสิ้น 158,140 ล้านบาท แบ่งเป็นการออกโดยภาครัฐบาล 105,000 ล้านบาท หรือ 66% และภาคเอกชน 53,140 ล้านบาท หรือ 34% ส่งผลให้ ESG Bond มีมูลค่าคงค้างอยู่ที่ 449,636 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 50% จากสิ้นปี 2564 ที่มีมูลค่า 299,296 ล้านบาท
โดยแนวโน้มการเสนอขาย ESG Bond เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านการดำเนินนโยบายของรัฐบาล และกลยุทธ์ของการระดมทุนของทุกบริษัท โดยครึ่งปีแรกปี 2565 กลุ่มที่มีสัดส่วนการถือครอง ESG Bond มากที่สุด อันดับ 1 คือ กลุ่มบริษัทประกัน 25.56% อันดับ 2 คือ กลุ่มธนาคาร 20.16% อันดับ 3 คือ กองทุน กบข. 18.84% และอันดับ 4 กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ 17.89%
ส่วนการจัดเสวนาในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแนวทางการผลักดัน ESG Bond ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และยังทำให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลด้าน ESG ของตราสารได้สะดวกขึ้น และทำให้ผู้ออกตราสารระดมทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นกู้ SLB ที่จะบริษัทฯ จะเสนอขายในครั้งนี้เป็นมิติใหม่สำหรับการลงทุน ทุกคนที่เข้าลงทุนจะมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนไปพร้อมๆ กับบริษัทฯ ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ และความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน
โดยหุ้นกู้ SLB ที่ทำการเสนอขายในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 รุ่น กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และจะเสนอขายระหว่างวันที่ 25 และ 28-29 พฤศจิกายนนี้ ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” จากทริสเรทติ้ง และกำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
“การออกหุ้นกู้ SLB ของบริษัทฯ ครั้งนี้สอดรับกับกลยุทธ์ระยะยาวด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Strategy) ของบีทีเอส กรุ๊ปฯ โดยการคงสถานะความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และกำหนดให้เพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อย่างน้อย 10% ของการดำเนินงาน” นายสุรยุทธ กล่าว
เกี่ยวกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส กรุ๊ปฯ)
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส กรุ๊ปฯ) เป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจใน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ MOVE, MIX และ MATCH โดยมีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นอกจากนี้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของหุ้น Bluechip ที่อยู่ในดัชนี SET50 และได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment หรือ THSI) อีกทั้งยังเป็นสมาชิกของดัชนี MSCI Asia Pacific, FTSE4Good และ Dow Jones Sustainability Index (DJSI) บีทีเอส กรุ๊ปฯ เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นบริษัทขนส่งมวลชนทางรางแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน จากความมุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonisation) ของบริษัท ประกอบกับการมุ่งเน้นในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ส่งผลให้บีทีเอส กรุ๊ปฯ เป็นบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดย DJSI