หุ้นปิดลบ 5.03 จุด กังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน สถานการณ์โควิดในจีนแย่ลง สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดจะไซด์เวย์ออกด้านข้าง เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 ของไทยที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะออกมาดีและช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้บรรยากาศการลทุนเป็นลบทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลสถานการณ์สงครามของรัสเซียและยูเครนอาจขยายวงกว้าง แม้ขีปนาวุธที่ตกในโปแลนด์ไม่ได้มาจากรัสเซียโดยตรง ขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนก็แย่ลง
ตลาดหุ้นบ้านเรารับแรงขายกลุ่มโรงพยาบาลที่ราคาปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 4/65 อาจเริ่มชะลอลง ขณะที่กลุ่มไฟแนนซ์ยังคงได้รับแรงกดดันจากมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อและการกำหนดเพดานดอกเบี้ย ซึ่งนักวิเคราะห์เริ่มออกมาปรับประมาณการผลประกอบการของกลุ่มนี้ลง
ขณะเดียวกัน ยังมีแรงขายเพื่อที่จะลดความเสี่ยงก่อนที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาต่างๆ จะทยอยออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่เฟดในแต่ละสาขายังมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,614.95 จุด ลดลง 5.03 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 59,154.40 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดจะไซด์เวย์ออกด้านข้าง เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 ของไทยที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะออกมาดีและช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
โดยให้แนวรับที่ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,620 จุด