xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดเทขายลดเสี่ยง เหตุกังวลสงครามรัสเซียยูเครนกระทบการลงทุน กด SET INDEX ปิด -9.40 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -9.40 จุด โบรก ฯ ชี้นักลงทุนกังวลความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยเฉพาะขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่กลุ่มพันธมิตรมอบให้ยูเครนยิงตกเข้าไปในโปแลนด์ หวั่นบานปลายสร้างความเสียหายลุกลามมากขึ้น จึงเกิดแรงเทขายลดเสี่ยงออกมาก่อน มองแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดรีบาวด์จากแรงหนุนโอกาสดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าหลังประชุมเอเปค พร้อมประเมินแนวต้านที่ 1,630-1,635 จุด และแนวรับที่ 1,610-1,615 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 16 พ.ย. 2565 ปรับตัวลดลง -9.40 จุด หรือ -0.58% โดยปิดตลาดที่ 1,619.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,524.93 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,629.06 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,616.82 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 486 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 524 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน1,208 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,429.01 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +637.24 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,371.74 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -694.51 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,685.86 ล้านบาท ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
2.POLY มูลค่าการซื้อขาย 2,015.22 ล้านบาท ปิดที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,925.81 ล้านบาท ปิดที่ 50.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,898.72 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,848.96 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEPปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 2.17%
2.BCP ปิดที่ 32.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.59%
3.HANAปิดที่44.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.13%
4.TISCOปิดที่97.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.52%
5.SCB ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.47%
 
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EA ปิดที่ 94.50 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 4.06%
2.SCC ปิดที่ 344.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 1.15%
3.CENTEL ปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 3.55%
4.AEONTS ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 0.92%
5.AOT ปิดที่ 74.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.65%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,213.87 จุด ลดลง -16.81 จุด หรือ -0.75% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 984.61 จุด ลดลง -7.62 จุด หรือ -0.77% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 610.36 จุด ลดลง -0.58 จุด หรือ -0.09%

นายชัยพร นิ่มพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากความกังวลในเรื่องของมิสไซล์ต่อสู้อากาศยานจากประเทศพันธมิตรที่มอบให้ยูเครนเพื่อป้องกันการโจมตีจากรัสเซียยิงไปตกในโปแลนด์ ทำให้กลับมากังวลความรุนแรงของสงครามรัสเซีย-ยูเครน อีกครั้ง

ขณะเดียวกันยังมีแรงขาย sell on fact หลังจากบริษัทจดทะเบียนต่างทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ออกมาแล้ว โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้กดดันต่อภาพรวมดัชนีให้เกิดการพักตัวในวันนี้

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดรีบาวด์หลังจากปรับลงวันนี้ โดยที่ยังมองปัจจัยบวกในประเทศจากการประชุมเอเปคที่จะสามารถช่วยดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนเข้ามาได้ และจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น แนะติดตามคววามคืบหน้าการสืบสวนมิสไซล์ที่ตกในโปแลนด์ว่าจะออกมาอย่างไร โดยมองแนวต้านที่ 1,630-1,635 จุด และแนวรับที่ 1,610-1,615 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น