น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยเงินบาทวันนี้แข็งค่าหลุดแนว 36.00 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 3 เดือนที่ 35.70 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะลดช่วงบวกลงบางส่วนมาปิดตลาดที่ 35.92 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามทิศทางสกุลเงินเอเชียในภาพรวม ซึ่งมีแรงหนุนจากการประเมินของตลาดว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับลดขนาดการขึ้นดอกเบี้ยให้มีความแข็งกร้าวน้อยลงในการประชุม FOMC รอบถัดๆ ไป หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอลงกว่าที่คาด ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมจาก Sentiment ของค่าเงินหยวนที่ฟื้นตัวขึ้นรับข่าวที่ระบุว่า ทางการจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด โดยมีการลดวันกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ นอกจากนี้ เงินบาทที่แข็งค่ายังสอดคล้องกับสถานะพอร์ตซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ที่ 5,337 ล้านบาท และ 5,250 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า คาดไว้ที่ระดับ 35.30-36.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือน ต.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือน พ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ของจีน เช่น ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และอัตราการว่างงานด้วยเช่นกัน