xs
xsm
sm
md
lg

SAPPE ไตรมาส 3 กำไรโต 25%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เซ็ปเป้" งวดนี้กวาดรายได้รวม 1,356.6 ล้านบาท เติบโต 25.2% และมีกำไรสุทธิ 178.1 ล้านบาท เติบโต 25.5% ดันผลงานทำ All Time High ทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกัน 3 ไตรมาส ส่งผลงวด 9 เดือนแรกของปี 65 มีรายได้รวม 3,832.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 498.8 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 30-35% เตรียมติดสปีดขยายตลาดต่างประเทศ บุกประเทศดาวรุ่ง ฝรั่งเศส ต่อยอดความสำเร็จผลิตภัณฑ์ Mogu Mogu

น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 178.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 142.0 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทำได้ 1,356.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,083.9 ล้านบาท นับเป็นการทำรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ติดต่อกัน 3 ไตรมาส ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 498.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่มีกำไรสุทธิ 355.4 ล้านบาท และมีรายได้รวม 3,832.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 2,816.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญของการเติบโตของไตรมาส 3/2565 มาจากตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปมีการเติบโตสูงถึง 134.1% โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทฯ สามารถปักธงช่องทางห้างค้าปลีก (MT) และร้านค้าดั้งเดิม (TT) เริ่มต้นจากประเทศฝรั่งเศส อันจะเป็นแรงผลักดันนำร่องให้เกิด Brand Awareness ไปยังประเทศอื่นๆ ในโซนยุโรปปีถัดๆ ไป ขณะที่ยอดขายในตลาดตะวันออกกลางและเอเชียยังเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 51.5% และ 38.5% ตามลำดับ จากทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ปัจจุบัน SAPPE มีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศคิดเป็น 78% ของรายได้ โดยเราเห็นคำสั่งซื้อต่อเนื่องจนถึงปลายไตรมาส 1/66 แล้ว แม้สถานการณ์ในทวีปยุโรปจะเกิดปัญหาเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม” น.ส.ปิยจิต กล่าว

นอกจากนี้ SAPPE มีการทำการตลาดโดยผสมผสานทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างการมองเห็นและเพิ่มกลุ่มผู้บริโภคใหม่ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้นำกลยุทธ์การตลาดแบบ “ผู้ทรงอิทธิพลชื่อดังระดับโลก” (Global Influencer Marketing) อย่างวง “บีทีเอส” (BTS) ในการโปรโมตเครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) ผ่านรายการ RUN BTS ที่มีผู้ติดตามจำนวนมหาศาล โดยบริษัทฯ คาดว่าการตลาดแคมเปญนี้จะเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก (Global Brand) มากยิ่งขึ้น ทั้งยังส่งผลต่อยอดขายในประเทศอื่นๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียและยุโรปด้วย

น.ส.ปิยจิต กล่าวว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 30-35% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 20% เปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 3,444.1 ล้านบาท โดยเราได้วางกลยุทธ์เพื่อรุกสร้างการเติบโตในต่างประเทศจะมุ่งเน้นที่การสร้างแบรนด์ให้สอดคล้องกับการแข่งขัน และความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลก พร้อมสร้าง Brand Loyalty เพื่อมัดใจผู้บริโภค และมีการซื้อซ้ำอยู่เสมอ


กำลังโหลดความคิดเห็น