สัปดาห์นี้มีหุ้นน้องใหม่เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัท ตัวหนึ่งใครได้รับการจัดสรรโควตารวยกันถ้วนหน้า ส่วนอีกตัว ใครจองไว้ ทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจ เพราะราคารูดต่ำกว่าจองทันทีที่เปิดการซื้อขาย
หุ้นบริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI บริษัทลูกของบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เข้าซื้อขายวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาจอง 5.55 บาท แต่ปิดการซื้อขายวันแรกที่ราคา 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 3.35 บาท หรือเพิ่มขึ้น 60.36% คนจองกำไรงามๆ
ส่วนหุ้นบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG ผู้ดำเนินธุรกิจการเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร เข้าซื้อขายวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน หลังนำหุ้นจำนวน 434.80 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกที่ราคา 40 บาท จากพาร์ 5 บาท โดยมีค่าพี/อี เรโช 21.20 เท่า และมีหุ้นส่วนเกินหรือกรีนชูอีก 65.20 ล้านบาท
ปรากฏว่าหุ้น BTG ไม่เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่จองซื้อถอนทุนคืนแต่อย่างใด เพราะประเดิมซื้อขายที่ราคา 39.75 บาท ต่ำกว่าจอง 0.25 บาท และทรุดตัวลงต่อเนื่อง จนปิดการซื้อขายที่ราคา 36.25 บาท ต่ำกว่าจอง 3.75 บาท หรือต่ำกว่าจอง 9.38%
BTG เข้ามาซื้อขายในภาวะตลาดหุ้นที่คึกคัก จึงไม่อาจหา “แพะ” มากล่าวอ้างเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นต่ำจองได้ เว้นแต่คนหน้าไม่มียางอายเท่านั้น เพราะวันที่ BTG เข้าซื้อขาย ดัชนีปรับตัวลงเพียง 0.71 จุดเท่านั้น คนที่มียางอายคงไม่กล้าอ้างภาวะตลาดเป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นต่ำจอง จนถูกนักลงทุนทั้งตลาดหุ้นโห่ไล่ได้
การที่นักลงทุนจองหุ้นตัวนี้แล้วเจ๊งตามๆ กัน น่าจะเกิดจากเหตุผลเดียว
ราคาหุ้นที่เสนอขายสูงเกินไป และแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการอาจไม่สดใสนัก เมื่อเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จึงถูกถล่มขาย โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมอาจเทหุ้นขายออกมา
แม้จะมีกรีนชูจำนวน 65.20 ล้านหุ้น แต่ดูเหมือนว่ากรีนชูจะไม่ได้ทำงานอะไร เพราะราคาหุ้นต่ำจอง แต่กรีนชูกลับพยุงราคาไม่อยู่ และไม่รู้ว่า กรีนชูเข้ามาซื้อหุ้นพยุงราคาหรือไม่
เคยมีคำเตือนให้ระวังหุ้นที่มีกรีนชูมาก่อนหน้าแล้ว เพราะถ้าหุ้นดี กำหนดราคาเหมาะสม และเจ้าของมีความมั่นใจในพื้นฐานบริษัท ไม่จำเป็นต้องมีกรีนชูมาสร้างภาพ ลวงให้นักลงทุนหลงเชื่อว่าหุ้นที่มีกรีนชูราคาจะไม่ต่ำกว่าจอง เพราะถ้าต่ำกว่าจอง กรีนชูจะเข้ามาซื้อพยุงราคาหุ้น
แต่หุ้นที่มีกรีนชูกี่สิบตัวแล้วที่ราคาต่ำกว่าจองตั้งแต่วันแรก และไม่เคยมีการรายงานว่า กรีนชูเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อพยุงราคาไปสักเท่าไหร่ ไม่เคยมีการแถลงข้อมูลกรีนชู แม้สิ้นสุด 30 วัน นับจากหุ้นใหม่เข้าซื้อขาย
ตอนจะขายหุ้น บริษัทจดทะเบียนใหม่พยายามสร้างข่าวเรื่องกรีนชูนำไปเป็นจุดขายกระตุ้นนักลงทุน แต่ไม่เคยมีการแถลงว่า กรีนชูทำงานอย่างไรบ้าง ซื้อหุ้นคืนไปสักเท่าไหร่ เมื่อราคาหุ้นลงมาต่ำกว่าจอง
จริงๆ แล้วกรีนชูถือเป็นเพียงกลไกในการกระตุ้นราคาหุ้น และเป็นเครื่องมือในการ “แหกตา” นักลงทุนที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรีนชู
หุ้นใหม่ที่ดีจริงไม่จำเป็นต้องใช้กรีนชูมาเป็นเครื่องมือปลุกเร้าการขาย เพราะหุ้นดี มีเท่าไหร่ก็ขายหมด เว้นแต่หุ้นที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง หรือดีไม่จริงเท่านั้น จึงต้องดึงกรีนชูมาเป็นตัวช่วย
แต่กรีนชูไม่ใช่ใบรับประกันว่าหุ้นใหม่จะไม่ต่ำกว่าจอง และหุ้น BTG ตอกย้ำให้เห็นว่า หุ้นใหม่ที่มีกรีนชูกลายเป็นหุ้นอันตราย และใครได้จัดสรรโควตามาอาจซวยตั้งแต่วันแรกที่จ่ายเงินซื้อ เพราะเจ๊งทันทีที่หุ้นประเดิมซื้อขาย
เช่นเดียวกับ BTG ซึ่งนอกจากไม่เปิดโอกาสให้คนจองขายทำกำไรแล้ว ยังปิดโอกาสการถอนทุนคืน เพราะราคาหลุดจองทันทีที่เข้าซื้อขาย
และทรุดหนักเมื่อปิดตลาด จนคนจอง BTG กระเป๋าฉีก เจ็บตัวหนักกันถ้วนหน้า จึงเป็นหุ้นน้องใหม่ที่โหดตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์