ฮ่องกงเปิดเผยนโยบายสินทรัพย์ดิจิตอล เตรียมอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยเทรดคริปโตและกองทุน ETF คริปโต ตั้งความหวังฟื้นสถานะฮับฟินเทค
ฮ่องกงรูดม่านเปิดงานฟินเทค วีก 2022 เมื่อวันจันทร์ (31 ต.ค.) พร้อมประกาศนโยบายเกี่ยวกับคริปโตและบล็อกเชนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทวงคืนสถานะฮับฟินเทคที่ครอบคลุมถึงสินทรัพย์ดิจิตอลและการลงทุน
พอล ชาน รัฐมนตรีคลังฮ่องกง กล่าวในแถลงการณ์ที่บันทึกไว้ล่วงหน้าว่า การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิตอลของภาคบริการทางการเงินเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับแรกของฮ่องกง และเสริมว่า ฮ่องกงกำลังสำรวจความเป็นไปได้ของโครงการนำร่องเพื่อทดสอบผลประโยชน์ด้านเทคโนโลยีที่จะได้รับจากสินทรัพย์เสมือน เช่น โครงการออก NFT (non-fungible token) ตราสารหนี้สีเขียวในรูปแบบดิจิตอล และสกุลเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC)
เอ็ดดี้ หยู ประธานบริหารธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ขานรับว่า นวัตกรรมดังกล่าวควรได้รับการปฏิบัติอย่างเปิดกว้าง และฮ่องกงสามารถใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อทำให้ตลาดการเงินสมบูรณ์ยิ่งขึ้นและส่งผลดีต่อโลกจริง
หยูยังบอกอีกว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยแยกส่วนการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ทั้งงานศิลปะ อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ อีกทั้งยังสร้างตัวกลางทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ โดยที่ระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดและชัดเจนจะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการนี้
การเปลี่ยนแปลงท่าทีและนโยบายต่อคริปโตเกิดขึ้นขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงกว่า 30% นับจากต้นปีจนถึงล่าสุด ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานทั่วโลก ดอกเบี้ยขาขึ้น และเงินทุนไหลออกจากฮ่องกงอันเนื่องมาจากนโยบายล็อกดาวน์สกัดโควิด
นโยบายแข็งกร้าวควบคุมการเทรดคริปโตของฮ่องกงก่อนหน้านี้ประกอบกับความกังวลว่า จีนจะขยายมาตรการแบนคริปโตทำให้แพลตฟอร์มเทรดคริปโตหลายแห่ง เช่น FTX ที่ดำเนินการโดยแซม แบงก์แมน-ฟรายด์ มหาเศรษฐีอเมริกัน ถอนตัวออกจากฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว โดยบางแห่งย้ายไปสิงคโปร์ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของฮ่องกง
หยูเสริมว่า ขณะนี้ HKMA กำลังสร้างกฎระเบียบที่เหมาะสมและอิงกับความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับสเตเบิลคอยน์ และออกแนวทางสำหรับแบงก์เกี่ยวกับบริการคริปโตและบริการทางการเงินที่สามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ผ่านตัวกลาง (DeFi) ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีหรือบริการรับฝากทรัพย์สิน
นอกจากนั้น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงยังเปิดเผยกรอบโครงในการควบคุมแพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิตอล ซึ่งจะเป็นไปตามหลักการพื้นฐาน “same activity, same risk, same regulation”
หยูแจงว่า แนวทางเหล่านี้จะนำเสนอรากฐานอันแข็งแกร่งและกฎที่ชัดเจนเพื่อให้ฮ่องกงสร้างระบบนิเวศคริปโตและ DeFi ที่มีชีวิตชีวา
ทางด้านชานเสริมว่า HKMA ได้เริ่มเตรียมการเพื่อออก CBDC ของฮ่องกง และจะทดสอบด้วยโครงการ m-CBDC Bridge กับจีนและประเทศอื่นๆ ภายใต้เป้าหมายในการทำให้การชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์เกิดขึ้นจริง
การร่วมมือของฮ่องกงกับธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังรวมถึงการทดสอบการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยเงินหยวนดิจิตอลในฮ่องกง
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงยังมีแผนอนุญาตให้กองทุน ETF คริปโตจดทะเบียนและเทรดในฮ่องกง โดยในระยะแรกจะจำกัดเฉพาะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาบิตคอยน์และอีเธอร์ในตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME)
ทั้งนี้ ก่อนที่งานฟินเทค วีก 2022 จะเริ่มต้นขึ้น เจ้าหน้าที่ฮ่องกงได้เตรียมการเพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายการเทรดคริปโตที่ขณะนี้ยังจำกัดสำหรับนักลงทุนมืออาชีพหรือผู้ที่มีสินทรัพย์ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น
แอนดี้ เมแฮน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลประจำเอเชีย-แปซิฟิกของแพลตฟอร์มเทรดคริปโต เจมิไน มองว่า การประกาศล่าสุดทำให้กฎระเบียบของฮ่องกงเทียบเท่ากฎระเบียบของสิงคโปร์
อนึ่ง แม้สิงคโปร์อนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยเทรดคริปโต แต่แบงก์ชาติแดนลอดช่องไม่สนับสนุนให้ประชาชนเก็งกำไรในตลาดคริปโต และออกข้อจำกัดในการโฆษณาบริการคริปโตในสถานที่สาธารณะ อีกทั้งยังออกมาตรการควบคุมใหม่ๆ อีกมากมาย