LINE BK ผู้ให้บริการ Social Banking ประกาศผลงานรอบ 2 ปี ด้วยยอดผู้ใช้บริการกว่า 5 ล้านราย พร้อมเดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 3 มุ่งพัฒนาบริการทางการเงินให้สะดวกและตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้านบริการสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง พร้อมรุกขยายฐานลูกค้าทั่วทุกภูมิภาคของไทย ปักหมุดเจาะตลาดอีสาน ดึง “เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม” ช่วยสื่อสารให้คนรู้จักและเข้าถึงมากขึ้น ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่เข้าถึงง่ายเพื่อคนไทยทุกคน
นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ LINE BK เปิดให้บริการมา นำบริการทางการเงินเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าอย่างแอป LINE ช่วยให้คนไทยรู้จักกับ Social Banking และใช้บริการทางการเงินได้สะดวกกว่าเดิม ตามคอนเซ็ปต์ ‘เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ’ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการกว่า 5 ล้านราย โตขึ้นกว่า 50% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ผ่าน 4 บริการหลัก ได้แก่ บัญชีเงินฝาก 5.9 ล้านบัญชี บัญชีเงินออมดอกพิเศษ 1.6 แสนบัญชี บัตรเดบิต 2.8 ล้านบัตร และบริการยืมเงิน LINE BK ที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงสินเชื่อถูกกฎหมายไปแล้วกว่า 6 แสนบัญชี
โดยบริการธุรกรรมทางการเงินตลอด 2 ปีที่ผ่านมา LINE BK ได้มีการทำแคมเปญเพื่อกระตุ้นการสมัครใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น สมัครด้วย K+ ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้มีลูกค้ามาสมัครบริการด้วยบัญชี KBank มากขึ้นกว่า 20% และ QR payment ที่ทำให้ผู้ใช้ LINE BK สามารถสแกนจ่าย QR พร้อมเพย์ ได้ใน LINE รวมทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการด้านต่างๆ มากมาย เช่น Shopee, LINE MAN, Foodpanda, Lazada และ VISA เพิ่มความคุ้มค่าทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต
ด้านบริการสินเชื่อ ทั้งผลิตภัณฑ์วงเงินให้ยืมและวงเงินให้ยืมนาโน มีการอนุมัติวงเงินให้กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำ (ผู้ประกอบอาชีพอิสระและเจ้าของกิจการ) ถึง 40% โดยมียอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วรวม 47,000 ล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้าง 18,500 ล้านบาท ทั้งนี้ จากทำแคมเปญในช่วงต้นปี 2565 (ก.พ.-เม.ย.2565) ที่ผ่านมา ทำให้เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศได้มากขึ้นและมองเห็นโอกาสในการบุกตลาดภาคอีสาน จากความสนใจสมัครสินเชื่อ LINE BK ในภาคอีสานเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (เม.ย.2564) ถึง 52% รวมทั้งเศรษฐกิจของภาคอีสานมีแนวโน้มเติบโตตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย จึงคาดว่าความต้องการสินเชื่อทั้งเพื่อไปประกอบธุรกิจและใช้ในชีวิตประจำวันจะเพิ่มขึ้น ล่าสุด ได้จับมือกับศรีสวัสดิ์มอบทางเลือกให้ลูกค้าที่มีทรัพย์สินต่างๆ เพื่อลงทะเบียนขอสินเชื่อกับศรีสวัสดิ์ในหลากหลายประเภท เช่น สินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สินเชื่อบ้านและที่ดิน สินเชื่อรถบรรทุก และสินเชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตร
สุดท้ายด้านธุรกิจประกันที่เริ่มต้นจับมือกับ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันพัฒนาช่องทางการให้บริการประกันชีวิตและสุขภาพผ่าน LINE BK โดยในช่วงแรกเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม มีสัญญาณตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยพบว่ามีลูกค้ากว่า 60% ที่ให้ความสนใจศึกษาข้อมูลหลังจากได้รับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่คนสนใจ 3 อันดับแรก ได้แก่ ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ประกันชดเชยรายได้ (HIP) และประกันโรคร้ายแรงกลุ่มโรคมะเร็ง (D-Cancer)
สำหรับทิศทางและเป้าหมายของการก้าวสู่ปีที่ 3 นายธนา กล่าวว่า ในอนาคต LINE BK เตรียมพัฒนาบริการ เพื่อให้การใช้งานบริการทางการเงินและโลกโซเชียลเข้ามาใกล้กันมากขึ้น โดยในเร็วๆ นี้จะพัฒนาให้การโอนเงินหากันในแชตง่ายยิ่งขึ้นไปอีก ด้านสินเชื่อ เน้นคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อทั้งผลิตภัณฑ์วงเงินให้ยืมและวงเงินให้ยืมนาโน โดยเพิ่มความสามารถในการคัดเลือกลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ข้อมูลทางเลือกในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสมัครขอสินเชื่อได้โดยไม่ต้องส่งเอกสารรายได้ โดยที่ผ่านมา LINE BK มีการพัฒนาระบบ AI หลังบ้าน เพื่อวิเคราะห์ลูกค้าสินเชื่อที่เรียกว่า Behavioral scoring โดยรวมมิติของพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์เข้าไปในการประเมินความเสี่ยง เพื่อการเข้าถึงลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และด้านประกัน เตรียมแผนก้าวเป็นโบรกเกอร์เต็มตัวในปี 2566 เริ่มจากกลุ่มประกันสุขภาพ