ธ.ก.ส. จัดโครงการชำระดีมีคืนพลัส ปีบัญชี 2565 คืนดอกเบี้ยร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท เพื่อลดภาระและเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ภัยธรรมชาติ และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ตรวจสอบสิทธิเข้าร่วมโครงการได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธันวาคม 2565
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ภัยธรรมชาติและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง สวนทางกับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น โดยจัดทำมาตรการฟื้นฟูและลดหนี้ครัวเรือนเกษตรกร พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการบริหารหนี้ในระดับจังหวัดและสาขาเพื่อจัดทีมงานลงไปพบปะพูดคุย สอบถามปัญหากับเกษตรกรลูกค้า และวางแนวทางการเข้าไปช่วยเหลืออย่างตรงจุด ควบคู่กับการจัดทำโครงการชำระดีมีคืนพลัส ปีบัญชี 2565 เพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินและเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรได้มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในครัวเรือน
สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการชำระดีมีคืนพลัส ปีบัญชี 2565 ต้องเป็นเกษตรกรรายบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้ปกติ มีกำหนดชำระหนี้คงเหลือในปีบัญชี 2565 (ยกเว้นหนี้เงินกู้โครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล) และชำระหนี้ตามกำหนดเวลา จะได้รับดอกเบี้ยคืนในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท โดยทุกการชำระเงินธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากลูกค้า โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากในวันถัดไป
โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสิทธิในการเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ในระยะเวลาเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งเมื่อเกษตรกรลูกค้าชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้วสามารถรับการสนับสนุนสินเชื่อใหม่เพื่อนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพและต่อยอดธุรกิจ รวมถึงการฟื้นฟูอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่เหมาะสมต่อไป