น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้าเจาะรายบุคคล และประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง และเจ้าหนี้ 65 ราย ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาล จัดกิจกรรม "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้" เพื่อลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้จากผลกระทบสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาค่าครองชีพ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ให้สามารถแก้ไขหนี้ได้ และสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อย่างยั่งยืน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ระยะแรกเป็นการแก้หนี้แบบออนไลน์ จึงขอเชิญชวนลูกหนี้ลงทะเบียนแก้หนี้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ผ่านเว็บไซต์ www.bot.or.th/debtfair
สำหรับขั้นตอนในลงทะเบียนนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
1. ยื่นคำขอผ่านเว็บไซต์มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ www.bot.or.th/debtfair
2. ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ร่วมในมหกรรมฯ ตามที่ผู้ลงทะเบียนระบุ ภายใน3-4 วัน หลังจากลงทะเบียนสำเร็จ
3. ลูกหนี้รอรับโทรศัพท์ติดต่อจากเจ้าหนี้เพื่อเจรจาเงื่อนไขภายใน 14 วัน หลังจากผู้ให้บริการทางการเงินรับคำขอจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ลูกหนี้ที่ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว สามารถตรวจสอบสถานะผ่านเว็บไซต์มหกรรมฯ หากไม่ได้รับการติดต่อหลังจากลงทะเบียนเกิน 18 วัน สามารถติดตามสถานะกับเจ้าหน้าที่ท่านลงทะเบียนไว้ โดยขอย้ำว่าการลงทะเบียนไม่มีเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าดำเนินการใดๆ ในการเข้าร่วมมหกรรมฯ ทั้งสิ้น เช่น ค่าลงทะเบียน ค่าค้ำประกัน ค่าปลดล็อก SMS ดังนั้น จึงโปรดระวังมิจฉาชีพหลอกลวง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่มีการติดต่อโดยตรงไปที่ลูกหนี้ในทุกกรณี และไม่มีการทำธุรกรรมโดยตรงกับประชาชน
น.ส.ทิพานัน ย้ำว่า เพื่อป้องกันการแอบอ้างหลอกลวง หากมีเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนจากเจ้าหนี้ ติดต่อไป แนะนำให้สอบถาม "เลขที่คำขอ" กับเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อมาก่อนเท่านั้น เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ก่อนให้ข้อมูลส่วนตัว หากสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ฝ่ายคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร.1213 ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 น. -17.30 น. Chabotหมอหนี้ (Line@doctordebt) Email : debtfair@bot.or.th
น.ส.ทิพานัน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์แล้ว ยังมีโครงการสัญจรด้วย ซึ่งทางธนาคารของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารกรุงไทย จะจัด "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร" ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จ.ขอนแก่น ในช่วงเดือนธันวาคม จ.เชียงใหม่ จ. ชลบุรี ในช่วงกลางเดือนธันวาคม และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2566 ส่วนในกรณีลูกหนี้ไม่สามารถเข้าร่วมมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ได้ ก็ยังมีช่องทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ โดยกรณีหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สามารถติดต่อคลินิกแก้หนี้ www.คลินิกแก้หนี้.com และกรณีประเภทหนี้ หรือเจ้าหนี้อื่น นอกมหกรรมครั้งนี้ ลงทะเบียนใหม่ ผ่านทางด่วนแก้หนี้ของ ธปท.
ยืนยันว่า รัฐบาลมีความจริงใจและจริงในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างจริงจัง เพื่อลดภาระหนี้ของประชาชนรายย่อย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกกลุ่ม ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม