xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิด +2.27 จุด แม้เกิดแรงเทขาย-ตลาดกังวลปัจจัยภายนอก แนะจับตาโอเปกพลัส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +2.27 จุด นักวิเคราะห์มองตลาดกังวลปัจจัยลบต่างประเทศจึงเกิดแรงขายทำกำไรออกมาในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งโรงไฟฟ้า สถาบันการเงิน และ DELTA แนะจับตาการประชุมประเทศกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร OPEC+ ว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ พร้อมมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านพลังงานยืดเยื้อ ประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้เคลื่อนไหวที่ 1,570-1,590 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 5 ต.ค. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.27 จุด หรือ +0.14% โดยปิดตลาดที่ 1,580.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,395.03 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงในช่วงของการซื้อขายภาคเช้าก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรจากกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ทำให้ดัชนี SET INDEX ปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายแต่ยังคงปิดตลาดในแดนบวก โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,590.34 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,576.71 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 807 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 568 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 829 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,625.17 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +226.36 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,557.83 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -293.70 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,580.56 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,396.34 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,337.32 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,319.20 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,902.88 ล้านบาท ปิดที่ 190.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่165.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 2.48%
2.PTTEP ปิดที่168.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ1.82%
3.AEONTS ปิดที่162.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.56%
4.HANA ปิดที่39.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 6.08%
5.FORTH ปิดที่ 53.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.91%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. ADVANC ปิดที่ 190.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.55%
2.CBG ปิดที่ 80.50 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 2.72%
3.MEGAปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.69%
4.JMT ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.93%
5.SYNEXปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 3.77%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,137.30 จุด เพิ่มขึ้น 4.64 จุด หรือ 0.22% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 948.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.44 จุด หรือ 0.15% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 647.40 จุด ลดลง -0.20 จุด หรือ -0.03%

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้ารีบาวด์ต่อเนื่องตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,590.34 จุด มองว่าจะเปลี่ยนภาพตลาดให้เป็นทิศทางขาขึ้น แต่กลับไม่สามารถยืนที่ระดับดังกล่าวได้ จึงเกิดแรงขายทำกำไรออกมาในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งโรงไฟฟ้า แบงก์ และ DELTA หลังจากที่วานนี้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก

ขณะที่นักลงทุนยังคงมีความกังวลปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส ว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ตามคาดการณ์หรือไม่ และสหภาพยุโรปยังคงเดินหน้าที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซีย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อปัญหาด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง

ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์จนกว่าความเชื่อมั่นต่อทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐจะออกมาชัดเจน พร้อมแนะจับตาการประชุมโอเปกพลัสที่จะออกมาในคืนนี้ โดยประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้ที่ 1,570-1,590 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น