"ชินวะฯ" อสังหาฯ สัญาติญี่ปุ่นในไทย เดินหน้าลงทุนหลังโควิดซา ลุยเปิดบ้านไฮเอนด์ สไตล์โมเดลญี่ปุ่น พ่วงการปรับแบบรับฮวงจุ้ย แย้มปลายปี 65 จ่อเปิดโครงการใหม่รูปแบบเจแปนโมเดลอีกหลายทำเลใน CBD เตรียมนำห้องชุดลูกค้าจีนทิ้งดาวน์ในโครงการคอนโดฯ "รูเนะสุ ทองหล่อ 5" 20-30 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 7 ล้านบาทออกขายรอบใหม่
นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร บริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือชินวะ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ ภาพโดยรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตต่างๆ หลายด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยภายนอกประเทศ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยเราจะเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวตามการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น แต่วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อรายได้และการจ้างงานที่ลดลง ประกอบกับในสถานการณ์ปัจจุบัน สิ่งที่เป็นน่าเป็นกังวล คือ ทิศทางของความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จะยืดเยื้อไปแค่ไหน เพราะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง มีผลให้เกิดราคาสินค้าและบริการ รวมถึงต้นทุนด้านพลังงานที่ขยับเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สถานการณ์ภายในประเทศยังไม่มีประเด็นที่น่ากังวล เพราะรัฐบาลคงต้องดำเนินการในเรื่องการจัดตั้งเลือกตั้งใหม่
“ผมว่าแทบจะทุกอย่างที่เกิดขึ้น หรือที่เห็นอยู่ตอนนี้ได้สร้างความอึมครึมให้เศรษฐกิจ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องเดินไปข้างหน้า เพียงแต่เป็นการก้าวที่ต้องระวังและรอบคอบ” นายวิชัย กล่าว
สำหรับสถานการณ์เกี่ยวกับภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมนั้น นายวิชัย กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ลูกค้าชาวจีนที่ซื้อห้องชุดในโครงการ รูเนะสุ ทองหล่อ 5 มีจำนวนหนึ่งที่ทางโครงการพยายามติดต่อผู้ซื้อที่ได้วางเงินดาวน์ไปแล้ว 20% จนถึงปัจจุบันไม่สามารถติดตามผู้ซื้อได้ หาตัวไม่เจอ ทำให้ทางบริษัทชินวะฯ ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการคอนโดฯ เตรียมที่จะนำห้องชุดจำนวน 20-30 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 7 ล้านบาท มูลค่าขายประมาณ 250 ล้านบาท ออกมาขายใหม่ให้ผู้ที่สนใจที่ต้องการห้องชุดพร้อมอยู่ และยังสามารถปล่อยเช่าได้ คาดว่าภายในสิ้นปี 2565 จะเริ่มเปิดขายห้องชุดดังกล่าว
“บริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นบอกยังไม่ต้องรีบออกขาย ซึ่งเราพยายามติดต่อผู้ซื้อห้องชุด ซึ่งมีประมาณร้อยละ 30 ของห้องชุดทั้งหมดในโครงการ แต่ทั้งนี้ เราไม่ได้ปิดกั้น หากระหว่างการขายสามารถติดต่อลูกค้าได้ หรือ ลูกค้าติดต่อกลับ เราจะเร่งดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อชาวจีนทันที”
นายวิชัย กล่าวถึงการลงทุนของบริษัทชินวะฯในประเทศไทยว่า ทางบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าลงทุนอสังหาริมทารัพย์ในประเทศไทย โดยบริษัทชินวะฯ มีแผนพัฒนาโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และมองหาโอกาสขยายตลาดไปสู่หัวเมืองท่องเที่ยว เช่น จังหวัดภูเก็ต จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) และ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และมีแผนพัฒนาโครงการบ้านไฮเอนด์ในพื้นกรุงเทพฯ เพิ่มเติม โดยเน้นอยู่ในรัศมีศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ซึ่งทางบริษัทชินวะฯ มีที่ดิน (แลนด์แบงก์) รองรับการพัฒนาแล้ว
ล่าสุด เป็นครั้งแรกที่บริษัทชินวะฯ ได้ลงทุนและเปิดโครงการใหม่ที่ลงทุนเอง 100% โดยเป็นโครงการบ้านไฮเอนด์ ภายใต้ชื่อโครงการ “เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์” บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Japanese Modern ชูจุดเด่น “อินโนเวชัน” ผสาน “ฮวงจุ้ย” วิชาเต๋า-เหมาซานทุกหลัง จับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียง เป็นเศรษฐีกลุ่มนิชมาร์เกตระดับไฮเอนด์ โดยมีบ้านไฮเอนด์เพียง 5 หลัง ราคาตั้งแต่ 39.8 ล้านบาท ไปถึงสูงสุด 48.8 ล้านบาท มูลค่าการขาย 250 ล้านบาท คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในสิ้นปี 2565
“หากโครงการแฟลกชิปบ้านไฮเอนด์โครงการแรกประสบความสำเร็จ เรามีแผนที่จะนำโมเดลดังกล่าวไปพัฒนาต่อ โดยคาดว่าจะเริ่มได้ประมาณต้นปี 2566 ซึ่งเรามีที่ดิน 3-4 แปลง ขนาดที่ดินต่างกัน บางแปลง 200-500 ตารางวา และแปลงใหญ่สุดประมาณ 2 ไร่ น่าจะมีมูลค่าการพัฒนาโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท”