xs
xsm
sm
md
lg

PEA ผนึก SUPER ร่วมพัฒนาจัดหา-ซื้อขาย Carbon Credit

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) พัฒนาและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนผ่านระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า พร้อมทั้ง ศึกษาและพัฒนาการซื้อขาย I-RECs และ Carbon Credits ฟากซีอีโอ “จอมทรัพย์ โลจายะ” ระบุเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ส่งเสริมการแก้ปัญหา Climate Change ช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก สอดคล้องกับแนวโน้มสร้างธุรกิจใหม่ในอนาคต (New S-Curve) เผยตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์อีก 20-30 เมกะวัตต์ หนุนสร้างรายได้เติบโตอย่างมั่นคง

นายภาณุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และด้านการจัดหาและจำหน่าย Energy Attributed Certificates (EACs) หรือ Carbon Credits” ระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) กับ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER ) โดยจะดำเนินการศึกษาและพัฒนารูปแบบการดำเนินการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและขายพลังงานไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรงผ่านการขอใช้บริการโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า และพัฒนารูปแบบการซื้อขาย แลกเปลี่ยน Renewable Energy Certificates (RECs) หรือ Energy Attributed Certificates (EACs) รูปแบบอื่นๆ หรือ Carbon Credits รวมถึงรูปแบบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และเป็นส่วนสำคัญในการการส่งเสริมการซื้อขายพลังงานสะอาดในประเทศไทย ทั้งนี้ นอกจากประโยชน์ด้านทางธุรกิจด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแล้วนั้น PEA ได้เล็งเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น เช่น การเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในแง่ของการส่งออก และเป็นการสร้างแรงดึงดูดให้กลุ่มทุนที่มีความต้องการใช้พลังงานสะอาดหันมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งนับได้ว่าความร่วมมือนี้เป็นกลไกเริ่มต้นที่จะเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ

ด้านนายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) กล่าวว่า บริษัทฯ และ PEA จะร่วมกันศึกษาและพัฒนารูปแบบดังกล่าว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง พัฒนารูปแบบการซื้อขาย แลกเปลี่ยน Renewable Energy Certificates (RECs) หรือ Energy Attributed Certificates (EACs) รูปแบบอื่นๆ หรือ Carbon Credits โดยมีกรอบเวลาในการดำเนินการ 2 ปี

“การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ การขยายงาน รวมถึงการรับงานที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างพันธกิจสู่ความเป็นสังคม Carbon Neutrality ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้ผู้ประกอบการในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดโลก สอดคล้องกับแนวโน้มในอนาคต (New S-Curve) โดย SUPER ตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์อีก 20-30 เมกะวัตต์” นายจอมทรัพย์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น