SME D Bank ปลื้ม “สินเชื่อ SMEs Re-Start” กระแสตอบรับล้นหลาม ลุยเพิ่มวงเงินโครงการอีก 3,000 ล้านบาท พร้อมขยายเกณฑ์เปิดกว้างครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.5% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท ผ่อนนาน 12 ปี หนุนเอสเอ็มอีไทยเดินหน้าธุรกิจ รับปัจจัยบวกครึ่งหลังปี 65 จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มช่วงไฮซีซัน และจับจ่ายคึกคัก
น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า นับจากที่ธนาคารเปิดตัวโครงการ "สินเชื่อ SMEs Re-Start" วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้เอสเอ็มอีกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง นำไปใช้พลิกฟื้นธุรกิจไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น ผลตอบรับดีมากจนเต็มวงเงินอย่างรวดเร็ว ดังนั้น SME D Bank ได้เพิ่มเติมวงเงินโครงการนี้อีก 3,000 ล้านบาท พร้อมปรับเกณฑ์ขยายกลุ่มธุรกิจ นอกจากกลุ่มท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องแล้ว ได้เปิดกว้างให้เอสเอ็มอีทุกประเภทธุรกิจสามารถจะขอกู้ได้ด้วย ซึ่งจาก "ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SMEs ต่อเศรษฐกิจและธุรกิจไตรมาส 3/2565 และคาดการณ์อนาคต" โดยศูนย์วิจัยและข้อมูล ธพว.ร่วมกับศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า เศรษฐกิจไทยช่วงปลายนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยบวกกำลังซื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึง นโยบายเปิดประเทศทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจึงจำเป็นและต้องการเงินทุนเพื่อนำไปลงทุน เสริมสภาพคล่อง หมุนเวียนในกิจการ สามารถเดินหน้าคว้าโอกาสทางธุรกิจได้เต็มศักยภาพ
โดย “สินเชื่อ SMEs Re-Start” จะเข้ามาตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทุกประเภทธุรกิจ เปิดกว้างทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ สามารถนำไปใช้ได้ทั้งเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.5% ต่อปี หรือ MLR-1.25% วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 12 ปี พร้อมปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) สูงสุด 2 ปีแรก เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 หรือจนกว่าจะหมดวงเงินโครงการ แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน ซึ่งการขยายวงเงินสินเชื่อครั้งนี้จะช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ประมาณ 600 ราย รักษาการจ้างงานประมาณ 3,000 อัตรา และก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 13,700 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน SME D Bank ยังจัดเตรียมบริการด้านการพัฒนาควบคู่ ผ่านโครงการ “SME D Coach” ซึ่งเป็นบริการที่ปรึกษาธุรกิจครบวงจร โดยโค้ชมืออาชีพ ช่วยยกระดับเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถใช้บริการได้ฟรี
"ครึ่งหลังปี 65 จะเป็นโอกาสสำคัญของเอสเอ็มอีไทย ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายเปิดประเทศของภาครัฐ และเข้าสู่ช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยว ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เกิดการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก เมื่อมีเงินทุนและความรู้ที่ SME D Bank พร้อมสนับสนุนจะช่วยพาเอสเอ็มอีไทยคว้าโอกาสสำคัญครั้งนี้ไว้ได้"