ปิดตำนานมหากาพย์ดีล 17,850 ล้านบาท หลังยืดเยื้อหาความคุ้มค่าของการลงทุนในธุรกิจกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลนานข้ามปี จนแมงเม่าหลงเชื่อกลิ่นกาวดันราคาเหรียญ Kubcoin พุ่งเป็นบั้งไฟพญานาคแตะ 580 บาท แต่หลังฝุ่นควันคริปโตเริ่มจางหายความจริงขยะใต้ผืนพรมธุรกิจคริปโตเผยธาตุแท้ให้ปรากฏ ปิดฉากสุดยื้อของการเลื่อนดีลดับฝันรายย่อยเมากาวเฝ้าเพื้อเหรียญ Kub แตะ 1,000 บาท/เหรียญ
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์หรือ ตลท.ว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBS” หรือ “ผู้ซื้อ”) ในการประชุมครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ได้มีมติอนุมัติให้ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ “Bitkub” จาก บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (ในฐานะผู้ขาย) ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่า รวมประมาณ 17,850 ล้านบาท รวมเรียกว่า “ธุรกรรมการซื้อขายหุ้น” นั้น
ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ และ SCBS ได้ร่วมกันดำเนินการสอบทานธุรกิจ (due diligence) ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ขายและ Bitkub โดยในระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ บริษัทฯ และ SCBS ได้เห็นศักยภาพและความสามารถในหลากหลายด้านของกลุ่ม Bitkub และเห็นโอกาสในการร่วมมือพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของ Bitkub ในอีกหลายด้าน
อย่างไรก็ดี ถึงแม้การสอบทานธุรกิจจะไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันเป็นนัยยะสำคัญซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เนื่องจาก Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขายจึงได้ตกลงร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ SCBS ครั้งที่ 15/2565 จึงมีมติให้ SCBS ยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2565
ทั้งนี้ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ในการเข้าสู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะมีบทบาทอย่างสำคัญต่อเศรษฐกิจและภาคการเงินของประเทศไทย
อย่างไรก็ตามหนึ่งในประเด็นสำคัญของการล้มดีลในครั้งนี้ที่ทาง SCB ล้มเลิกดีลมูลค่า 17,850 ล้านบาท จากปัญหาคาราคาซังของความมั่นโหนกมั่นหน้าของทาง Bitkub ที่อวยยศความเลิศเลอของเหรียญ Kubcoin ว่ามีคุณสมบัติสูงเทียมยอดเขาพระสุเมรุ แม้ว่าทาง ก.ล.ต. จะสั่งให้แก้ไขคุณสมบัติของเหรียญ โดยการให้เวลานานกว่า 1 เดือนในการแก้ไขคุณสมบัติดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่า ทาง Bitkub เจ้าของโรงงานปั๊มเหรียญในอากาศจะไม่มีการปรับปรุงแก้ไขคุณสมบัติตามที่ ก.ล.ต. สั่งแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลา ทาง Bitkub ก็ทำได้เพียงส่งหนังสือชี้แจงกลับไปยังสำนักงาน ก.ล.ต. โดยชี้แจงถึงคถณสมบัติของเหรียญ Kubcoin ว่าเลิศเลอเพอร์เฟคอยู่แล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องแก้ไขอะไร และคุณสมบัติเหรียญที่มีอยู่นั้น สูงค่าเกินกว่าเหรียญไหนๆ "อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน" ซึ่งนี่อาจเป็นหนึ่งในประเด็นเล็กพริกขี้หนู ที่ยืดเยื้อเรื้อรังและเป็นปัญหา หาก SCB ซื้อมา ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นรอยด่างพร้อยใหม่ของธุรกิจที่สวยงามด้านนอก แต่เปื่อยเน่าด้านในหรือไม่ เพราะตอนนี้แมงเม่ารายย่อยที่เคยหลงเชิดชูบูชา เริ่มตาสว่างเห็นธาตุแท้เนื้อเน่าที่อยู่ภายใน เพราะกลิ่นที่ทยอยเริ่มโชยออกมา สะท้อนภาพความจริงของกิจการนี้
อ่านเพิ่มเติม>>> 'บิทคับ' ดื้อแพ่ง! เมินคำสั่งก.ล.ต. ไม่แก้คุณสมบัติอวยเหรียญตัวเองเวอร์ อ้าง "KUB" ได้มาตรฐานตั้งแต่แรก