TPCH ประเมินแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังยังสดใส เตรียม COD โรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในปีนี้ ดันกำลังการผลิตพุ่งแตะ 122 เมกะวัตต์ จากเดิม 116.3 เมกะวัตต์ ส่วนรายได้ปีนี้คาดเติบโต 30-40% ตามแผนงานที่วางไว้
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ายังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ เตรียมที่จะ COD โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างประมาณ 68% คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในปีนี้ รวมทั้งจากการทยอยรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้า รวม 11 แห่ง ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG, TPCH 5, TPCH 1, TPCH 2 และโรงไฟฟ้าขยะ SP มีกำลังการผลิตรวม 116.3 เมกะวัตต์
“บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะ COD โรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวลเพิ่มอีก 2 แห่ง ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้าง เพื่อเป้าหมายการมีกำลังการผลิตรวมที่ 122 เมกะวัตต์ จากเดิมที่มีกำลังการผลิตรวม 116.3 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ โครงการที่อยู่ระหว่างการปรับจูนเครื่องจักรมีความสามารถผลิตไฟฟ้าได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นส่วนช่วยในการสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตที่ระดับ 30-40% จากปีก่อน” นางกนกทิพย์ กล่าว
ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายการมีกำลังการผลิตรวม 250 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็นโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล ชีวภาพ ขนาด 200 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 50 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 พร้อมทั้งมุ่งพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอีกประมาณ 4-6 แห่ง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ประมาณ 1-2 โครงการ
นอกจากนี้ TPCH ยังให้ความสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงได้ดำเนินการ Carbon Creditในรูปแบบของ I-REC (International Renewable Energy Certificate) และในรูปแบบของ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ซึ่งเป็นการขอรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและนำ Carbon Credit มาขายเพื่อให้เกิดรายได้ในปีนี้ โดยคาดว่าจะสามารถนำโรงไฟฟ้ารวม 8 แห่ง เข้าร่วมโครงการได้ภายในปี 2565
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีการศึกษาและเตรียมความพร้อมในการเข้าประมูลโครงการพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิง ชีวมวล ชีวภาพ ซึ่งคาดว่าภาครัฐจะเปิดรับซื้อภายในปีนี้ พร้อมทั้งมีการศึกษาเพื่อพัฒนาและเข้าซื้อกิจการพลังงานทดแทนอีกหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังศึกษาธุรกิจที่สามารถต่อยอดจากโครงการพลังงานทดแทน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้ผู้ถือหุ้นและบริษัทฯ ได้ในอนาคต
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดไตรมาส 1/65 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565) บริษัทฯ มีรายได้รวม 625.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 566.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 36.99 ล้านบาท