xs
xsm
sm
md
lg

JMART-JMT ควงคู่ยกระดับการลงทุนเข้าสู่ SET50

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 (1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม) พบ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และบมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เป็น 2 บริษัทหลักทรัพย์เข้าใหม่ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนของกองทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการเป็นกลุ่มบริษัทที่อยู่ในใจนักลงทุน กองทุนมายาวนาน ขณะที่กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดดเด่นด้วยพลัง Super Synergy Ecosystem ในเครือเจมาร์ท และการมีบริษัทพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศไว้วางใจ ด้าน บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ยังคงอยู่ใน SET100 และเข้าดัชนี SETWB หนุนความน่าสนใจในการลงทุน

โดย นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) Technology Investment Holding Company (T-IHC) เปิดเผยว่า นับเป็นการสะท้อนความแข็งแกร่งของ JMART JMT และ SINGER ตลอดจนบริษัทในเครือที่ขับเคลื่อนธุรกิจได้ตามเป้าหมาย และการขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ ครอบคลุมด้านธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจการเงิน และเทคโนโลยี แบบที่ไม่มีบริษัทไหนในตลาดหลักทรัพย์มี พิสูจน์ด้วยผลการดำเนินงานสามารถบันทึกสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง อีกทั้งการต่อจิ๊กซอว์ร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนโอกาสในระยะยาว นอกจากนี้ การเติบโตของของ JMT ภายใต้การนำของ “นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพแบบไม่มีหลักประกันอันดับหนึ่งของประเทศ สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ควงคู่ยกระดับการลงทุนสู่ตลาด SET50 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ แย้มเตรียมเปิดแผน Joint Venture กับกลุ่มธุรกิจธนาคารกสิกรไทยเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ดี สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศทั่วโลก และเริ่มมีการเปิดประเทศให้สามารถเดินทางได้ กลุ่มบริษัทเจมาร์ทได้นำทัพทีมผู้บริหารเดินสายโรดโชว์พบปะนักลงทุนและกองทุนชั้นนำในต่างประเทศเช่นกัน นับเป็นการสะท้อนความน่าสนใจของกลุ่มบริษัท อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการนำเสนอ พบปะ แนะนำข้อมูลกลุ่มธุรกิจให้เกิดความเชื่อมั่นในอนาคตได้

นอกจากนี้ SINGER ที่นำโดย “นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และเข้าถึงลูกค้าผ่านตัวแทนขายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็นโมเดลการขายที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 130 ปี สามารถยืนได้ในดัชนี SET100 และยังเข้าดัชนี SET Well Being Index หรือ SETWB ดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหลักทรัพย์ 30 หลักทรัพย์ใน 7 หมวดธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย จึงนับเป็นความภาคภูมิใจของคณะผู้บริหารและทีมงานทุกคน

สำหรับการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวจะดำเนินการทุกครึ่งปี และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่าง 1 มิถุนายน 2564 ถึง 31 พฤษภาคม 2565

อย่างไรก็ดี JMART GROUP ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่อง วางปี 65 เป็นปีแห่งการต่อยอดพันธมิตร ด้วย 3 กลยุทธ์หลักด้าน Synergy - New Partner - New Business เพื่อสนับสนุนการเติบโตแบบ Exponential Growth โดย JMART ตั้งเป้าปี 65 กำไรโต 50%

ด้าน JMT วางเป้าหมายกำไรเติบโต 45% จากภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพในระบบที่ทยอยออกมาเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยวางงบลงทุนซื้อหนี้ไว้ราว 10,000 ล้านบาท ทั้งหนี้ด้อยคุณภาพแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหาร

ขณะที่ SINGER วางเป้าหมายเติบโตแรงที่ระดับ 75% และมุ่งสู่เป้าหมายมีร้านสาขาย่อยและแฟรนไชส์ 7,000 แห่ง เป็น Hub ในการขยายผลิตภัณฑ์ บริการ และเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศ ส่วนพอร์ตสินเชื่อรวมคาดสิ้นปีอยู่ที่ 15,500 ล้านบาท จากปีก่อนมีพอร์ตรวมอยู่ที่ 10,962 ล้านบาท และไฮไลต์ในการนำบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (SGC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีนี้ ปัจจุบันยื่นไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น