น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า เงินบาทวันนี้ปรับตัวอ่อนค่าลงแตะระดับ 35.34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีอีกครั้งนับแต่เดือนมีนาคม 2017 หลังจากเปิดตลาดที่ระดับ 35.23 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับเปิดตลาด โดยตลาดยังคงให้ความสำคัญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมครั้งต่อไปที่มองว่าจะยังคงปรับขึ้นอย่างแข็งกร้าวต่อไป รวมถึงดูแถลงการณ์ของเฟดในช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยประเมินกรอบค่าเงินบาทวันนี้ที่ระดับ 35.25-35.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
"วันนี้ค่าเงินอื่นๆ ในภูมิภาคมีการเคลื่อนไหวอ่อนหรือแข็งค่าต่างกันไป อย่างเงินรูปีของอินเดียแข็งค่าขึ้นเพราะคืนก่อนหน้าได้เซ็นสัญญาซื้อน้ำมันในราคาถูกไป ขณะที่เงินบาทยังอ่อนค่าจากการที่ กนง.ของเรายังไม่ได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งวันนี้อาจจะไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักเพราะตลาดสหรัฐฯ ปิด คงจะรอการแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้"
สำหรับเงินบาทสัปดาห์นี้มีคาดดารณ์การเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 35.28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนจะติดตามถ้อยแถลงด้านนโยบายของประธานเฟดต่อสภาในวันที่ 22-23 มิถุนายน รวมถึงข้อมูลยอดขายบ้านเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ ขณะที่ประมาณการดอกเบี้ยล่าสุดของเฟดสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสะท้อนว่ามีโอกาสราว 90% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 75bp ในเดือนกรกฎาคม และมีโอกาสสูงกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50bp ในเดือนกันยายน อย่างไรก็ดี การที่ธนาคารกลางหลายแห่งหันมาเร่งคุมเข้มนโยบายสร้างความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก และภาวะตลาดการเงินตึงตัวซึ่งมีแนวโน้มหนุนดอลลาร์ในช่วงนี้
สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขนำเข้าส่งออกเดือนพฤษภาคมจากกระทรวงพาณิชย์ ขณะผู้ว่าการ ธปท.ให้ความเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมากมีความจำเป็นน้อยลงและการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ต้องไม่ช้าเกินไป โดยเมื่อประเมินจากสภาวะแวดล้อมตลาดโลกเรามองว่ากระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทยจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง