แอสเซทไวส์ ต่อยอดความสำเร็จภายใต้แบรนด์ “แอทโมซ” หลังแอทโมซ คาแนล รังสิต และแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช ยอดจองพุ่ง 70% ล่าสุดเปิดตัว 2 โครงการใหม่ “แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี” ที่มาพร้อม Lifestyle Mall และ “แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน” คอนโดฯ อิตาเลียนสไตล์ บนทำเลศรีสมาน มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของตลาดที่อยู่อาศัยหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รวมถึงสังเกตได้จากยอดจองในภาพรวมเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ได้เปิดตัวโครงการ “แอทโมซ คาแนล รังสิต” และโครงการ “แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช” ซึ่งได้รับการต้อนรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี โดยปีนี้ยังถือเป็นปีที่บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์แอทโมซ (ATMOZ) ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ไฮไลต์ของบริษัทฯ ที่เปิดตัวโครงการมากที่สุด และเพื่อต่อยอดความสำเร็จนี้ แอสเซทไวส์จึงเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์แอทโมซ จำนวน 2 โครงการใหม่ ภายใต้แนวคิด “Urban Refresh” กับโครงการ “แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี” (Atmoz Flow Minburi) และโครงการ “แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน” (Atmoz Portrait Srisaman) มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,500 ล้านบาท
“สำหรับโครงการ “แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี” (Atmoz Flow Minburi) เป็นคอนโดฯ สไตล์รีสอร์ต มาพร้อมนิยามการอยู่อาศัยที่ผสมผสานเทคโนโลยี และพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติไว้ในทุกรายละเอียดได้อย่างกลมกลืน ตอบโจทย์วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน บนทำเลศักยภาพใจกลางมีนบุรีติดถนนใหญ่สีหบุรานุกิจ ซึ่งถือว่าเป็น Center of Eastern CBD จำนวน 3 อาคาร 739 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท
ส่วนโครงการแอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน (Atmoz Portrait Srisaman) คอนโดฯ สไตล์รีสอร์ต 3 อาคาร รวม 678 ยูนิต และร้านค้า จำนวน 2 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ศรีสมาน ตรงข้าม โรบินสัน ศรีสมาน ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท โดยโครงการแอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน เตรียมเปิดจองรอบ Early Bird ในวันที่ 11 มิถุนายน 65 พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 250,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงความเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์แอทโมซที่ชัดเจน ทั้งคุณภาพโครงการ การออกแบบ และพื้นที่ส่วนกลางที่พร้อมสรรพ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการ และใช้งานได้จริงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งที่อยู่อาศัยที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งเก่า และใหม่ดังเช่นที่ผ่านมา ประกอบกับในช่วงไตรมาส 2 นั้น ความต้องการที่อยู่อาศัยจะมีทิศทางเติบโตที่ดีขึ้น ทั้งจากการเปิดประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น และมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำยอดขายในช่วงไตรมาส 2 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน นายกรมเชษฐ์ กล่าว