หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -1.59 จุด โบรก ฯ มอง SET INDEX ปรับตัวฟื้นขึ้นมาตามตลาดหุ้นยุโรป หวังเศรษฐกิจจีนฟื้น หลังปักกิ่งเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แนะจับตาผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 8 มิ.ย. พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,650 จุด และแนวรับที่ 1,640 จุด
หุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ปรับตัวลดลง -1.59 จุด (-0.10%) โดยปิดตลาดที่ 1,646.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,372.21 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนี SET INDEX ปรับตัวลดลงในช่วงเช้า ก่อนปรับตัวฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายตามตลาดหุ้นยุโรป โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,652.11 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,636.08 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 573 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 587 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,104 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่านักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,154.96 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +365.91 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -330.19 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,923.87 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,878.26 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
2.KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,262.69 ล้านบาท ปิดที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,461.82 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,453.96 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,356.80 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 1.20%
2.TQM ปิดที่ 49.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 2.08%
3.MEGA ปิดที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ 1.49%
4.JMART ปิดที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาทหรือ 1.27%
5.KTB ปิดที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาทหรือ 4.67%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 214.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.38%
2.SCC ปิดที่ 366.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 0.81%
3.RATCH ปิดที่ 39.50 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 3.07%
4.DTAC ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 2.78%
5.GPSC ปิดที่ 66.00 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 1.86%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,263.14 จุด ลดลง -2.36 จุด หรือ -0.10% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 995.24 จุด ลดลง -0.66 จุด หรือ -0.07% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 635.09 จุด เพิ่มขึ้น 3.63 จุด หรือ 0.57%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวลดลงค่อนข้างมากหลังจากอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือน พ.ค. ออกมาสูงถึง 7.1% ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายทางการเงินของประเทศไทย
แต่อย่างไรก็ตามดัชนีในช่วงบ่ายฟื้นตัวขึ้นมามีช่วงลบที่ลดลง หลังจากตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากกรุงปักกิ่งเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ มีมาตรการต่างๆเพื่อที่จะออกมาของรัฐบาลจีนด้วย
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่าทิศทางดัชนีอาจจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ เพื่อรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 8 มิ.ย. โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,650 จุด และแนวรับที่ 1,640 จุด