นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เผยว่า มั่นใจเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวได้ 3% โดยมีภาคส่งออกเป็นพระเอกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังจากที่การส่งออกของไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 64 จนถึงล่าสุดไตรมาส 1/65 ที่การส่งออกขยายตัวสูงถึง 15%
ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้หารือกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องถึงทิศทางและแนวโน้มการส่งออกของไทยหลังจากนี้ เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาสงครามการค้า และปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่อาจเข้ามากระทบ ซึ่งภาครัฐได้เตรียมเครื่องมือเพื่อช่วยเหลือภาคเอกชนให้ยังสามารถเดินหน้าทำการค้าและการส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง
"มอบหมายให้ EXIM BANK เตรียมสภาพคล่องให้เพียงพอ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคการส่งออกทุกกลุ่ม รวมถึงสนับสนุนการเติมความรู้ในการดำเนินธุรกิจในโลกยุคดิจิทัล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ"
ทั้งนี้ ทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลกที่เป็นขาขึ้นในช่วงนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการให้เพิ่มขึ้น โดยได้ขอให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ให้นานที่สุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งที่ผ่านมา กนง. ได้พูดชัดเจนว่าการพิจารณาว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงการฟื้นตัว ดังนั้น กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ ต้องรักษาไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศจนเกินไป และไม่สร้างต้นทุนให้ผู้ประกอบการ จนส่งผลกระทบต่อการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศ