เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ปลื้มตลาด Solar Rooftop ในประเทศไปได้สวย ภาคธุรกิจสนใจติดตั้งเพิ่มหลังค่าไฟพุ่ง เชื่อหลังภาครัฐออกประกาศรับซื้อไฟจากภาคครัวเรือนอัตรา 2.20 บาท/หน่วย หนุน Solar Rooftop เติบโตชัดเจน เผย CHOW พร้อมขยายธุรกิจเต็มตัว หลังกระแสเงินสด บุคลากร เทคโนโลยี และพันธมิตรพร้อม คุยหลังจากนี้เตรียมทยอยส่งมอบโครงการต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานทดแทน ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยถึงธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในประเทศไทยว่า มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งภาคธุรกิจเอกชน และภาคครัวเรือน หลังจากที่ค่าไฟฟ้าได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยภาคเอกชนหันมาปรับลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานอย่างจริงจัง ด้วยการเลือกติดตั้งโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า ทำให้ธุรกิจ Solar Rooftop ของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเอกชนรายใหญ่ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการ Solar Rooftop ในมือเฉพาะในประเทศไทย 34.75 เมกะวัตต์ จาก 6.6 เมกะวัตต์ในปี 2564 และยังมีโครงการของภาคเอกชนรายใหญ่ที่อยู่ระหว่างการติดตั้งอีกหลายโครงการ ซึ่งจะทยอยจำหน่ายไฟอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้
“ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของ CHOW ถือว่าไปได้ดี เห็นได้จากภาคเอกชนรายใหญ่หลายรายให้ความสนใจใช้บริการของเรา เนื่องจากไว้วางใจในประสบการณ์ที่ CHOW ทำงานมาแล้วทั้งในและต่างประเทศ มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ ด้วยบริการที่ครบวงจร ทั้งยังมีผลงานที่ได้รับการยอมรับในตลาดมาแล้วอย่างกว้างขวาง ซึ่ง CHOW มีความพร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจเป็นอย่างดี ทั้งด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมืออุปกรณ์ ตลอดจนพันธมิตรที่มีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน และกระแสเงินสดที่พร้อมรองรับการขยายธุรกิจที่จะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งหลังจากนี้จะเห็นการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง” นายปรมัตถ์ กล่าว
นายปรมัตถ์ กล่าวต่อถึงโอกาสการเติบโตของ Solar Rooftop ภาคครัวเรือน หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) มีมติรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับภาคประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ โดยรับซื้อที่ 2.20 บาทต่อหน่วย ระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 ว่า จะช่วยจูงใจให้ภาคครัวเรือนหันมาติดตั้งเพิ่มขึ้น เพราะสามารถนำไฟฟ้าที่เหลือใช้ในครัวเรือนไปขายต่อให้ภาครัฐได้ ซึ่ง CHOW มีบริษัท เชาว์ แอนด์ ฮาโก้ โซลาร์ จำกัด ไว้รองรับโครงการขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในปีนี้จะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
"ปี 2565 จะเป็นอีกปีที่จะเห็นธุรกิจพลังงานของ CHOW เติบโตอย่างมีนัยสำคัญตามแผนงานที่วางไว้ หลังจากที่ได้เตรียมความพร้อมไว้รองรับการขยายตัวเป็นอย่างดี ทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี พันธมิตร และกระแสเงินสดที่ใช้รองรับการขยายธุรกิจ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ" นายปรมัตถ์กล่าว