หุ้นบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS หลังจากสร้างความมหัศจรรย์ภายในเวลา 1 ปีเศษ พุ่งทะยานขึ้นกว่า 30,000% กำลังถูกถล่มจมดิน ราคาดิ่งเหว และไม่อาจหยั่งได้ว่ารอบนี้จะทรุดลงลึกไปขนาดไหน
จากราคา 1.93 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 JTS ถูกลากขึ้นมาตลอดทาง
แม้จะถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายนับครั้งไม่ถ้วน แต่หุ้นกลับไม่สะทกสะท้าน วิ่งมาราธอนจนสร้างจุดสูงสุดหยุดที่ 594 บาท เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีค่าพี/อี เรโชเกือบ 2,000 เท่า
หลังจากนั้น JTS เริ่มเซถลา ราคาปักหัวลง จนวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม หุ้นถูกทุบจนรูดลงเกือบติดพื้น 30% โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายร่วงลงไปที่ 340 บาท ซึ่งหากลงไปอีก 1 ช่วงราคาหรือ 2 บาท จะลงติดฟลอร์ หรือติดพื้น 30% แต่มีแรงซื้อลากราคาขึ้นมาปิดที่ 402 บาท ลดลง 80 บาท
เมื่อปิดการซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 3 ขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายหุ้น JTS 1 วันทำการ คือ วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม แต่หลังปลด SP ยังคงมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 และ 2 กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด ห้ามนำหุ้นคำนวณวงเงินซื้อขายและห้ามหักกลบค่าชำระราคาซื้อขายหุ้นในวันเดียว (ห้ามเน็ตเซตเทิลเมนต์)
มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติมักใช้กับหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง แต่หุ้นที่ดิ่งลงอย่างรุนแรง ตลาดหลักทรัพย์ก็ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเหมือนกัน
และ JTS เป็นหุ้นตัวแรกที่ถูกแขวน SP เพราะราคาหุ้นร่วงหนัก
หุ้น JTS เปิดซื้อขายอีกครั้งวันพุธที่ 18 พฤษภาคม ปรากฏว่า ถูกทุบตั้งแต่เปิด ราคาดิ่งลงไปต่ำสุดระหว่างชั่วโมงซื้อขายที่ 296 บาท ก่อนกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 308 บาท ลดลง 94 บาท หรือลดลง 23.38% มูลค่าซื้อขาย 207.69 ล้านบาท
ค่าพี/อี เรโช JTS ลดมาอยู่ที่ประมาณ 700 เท่า ซึ่งยังสูงลิบอยู่ แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้จะเติบโต โดยมีกำไรสุทธิ 96.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.23 ล้านบาท
แรงกระตุ้นหุ้น JTS ส่วนหนึ่งเกิดการประกาศลงทุนตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ เงินสกุลดิจิทัลที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายเก็งกำไรมากที่สุดในโลก โดยตั้งเป้าปี 2567 จะมีเครื่องขุดบิตคอยน์ จำนวน 50,000 เครื่อง มีกำลังขุดประมาณ 5% ของกำลังขุดบิตคอยน์ทั้งโลก
แต่บริษัทจดทะเบียนที่ประกาศตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ถูกมองว่า เป็นการโหนกระแสเงินดิจิทัล เพื่อสร้างข่าวดีกระตุ้นราคาหุ้น โดยมีบริษัทจดทะเบียนประมาณ 10 แห่ง ที่แห่ประกาศตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ ขณะที่ราคาหุ้นถูกลากขึ้นรับข่าว แต่สุดท้ายนักลงทุนก็เทขายหุ้นที่ขายฝันตั้งเหมือนขุดบิตคอยน์ จนราคาร่วงกันยกแผง
จุดสูงสุดของ JTS ผ่านเลยมาแล้ว และเชื่อว่านักลงทุนกำลังเฝ้าดูว่าจุดต่ำสุดของหุ้นตัวนี้จะอยู่ที่เท่าไหร่ จะมาทางไหนกลับไปทางนั้น จะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นระดับไม่กี่บาทหรือไม่
เพราะหุ้นหมดจุดขายแล้ว และแม้จะทรุดลงมาเกือบ 50% จากจุดที่ขึ้นไปสูงสุดจาก 594 บาท เหลือ 308 บาท แต่นักลงทุนทั่วไปคงไม่บังอาจเข้าไปช้อน
JTS หุ้นที่ร้อนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ กำลังกลับ "บ้านเก่า" และเป็นการอวสานบริษัทจดทะเบียนที่ขายฝันตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ระดับตัวแม่
