"ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล" ปิดเทรดวันแรกที่ราคา 3.84 บาท เหนือจองพิ่มขึ้น 1.34 บาท หรือ 53.60% มูลค่าซื้อขาย 3,736.23 ล้านบาท ผู้บริหารมองสะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน ขึ้นแท่นผู้นำตลาดค้าส่ง (B2B) ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำครบวงจรอนาคตไกล มั่นใจใน 1-3 ปีข้างหน้าเติบโตต่อเนื่องจากฐานทุนที่เพิ่มขึ้น เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ลุยขยายตลาดต่างประเทศ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ จับมือพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ หนุนผลงานโตไม่ต่ำกว่าปีละ 25-30%
หุ้น FTI หรือบริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายวันแรกพบว่า เมื่อเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 4 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 60% จากราคาไอพีโอที่ 2.50 บาท และปิดช่วงเช้าที่ 4.34 บาท ปรับขึ้น 73.60% หรือเพิ่มขึ้น 1.84 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,268.77 ล้านบาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 4.50 บาท ต่ำสุดที่ 3.80 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 1.34 บาท หรือ 53.60% มูลค่าซื้อขาย 3,736.23 ล้านบาท
ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI เปิดเผยว่า หุ้น FTI ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 เป็นวันแรก ปรากฏว่าราคาเปิดซื้อขายได้เหนือราคาจองซื้ออย่างน่าประทับใจ โดยเปิดซื้อขายที่ราคา 4 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1.50 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น 60% เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอ 2.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำอย่างครบวงจรทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ทั้งหมดจำนวน 23 แบรนด์ ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยปีละ 25-30%
ทั้งนี้ ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพด้านฐานเงินทุนที่สูงขึ้น และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต พร้อมๆ กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้ลูกค้าจากการสร้างคลังและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเดินหน้าเพื่อรุกขยายไปในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า และกัมพูชา ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตทั้งในส่วนของรายได้ และกำไรจากงานที่จะเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด
“ผมต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การต้อนรับหุ้น FTI อย่างอบอุ่น โดยทีมผู้บริหารและพนักงานพร้อมจะเดินหน้าทำงานด้วยความมุ่งมั่นเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น โดยเชื่อว่าหลังจากนี้ในอีก 1-3 ปีข้างหน้าบริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินเพิ่มขึ้น และพร้อมจะผลักดันให้มีการเติบโตได้ต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเป็นผู้นำตลาดค้าส่ง (B2B) สินค้าเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว” ดร.วิกร กล่าว
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน FTI กล่าวว่า การเปิดซื้อขายหุ้นในวันแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และสร้างความประทับใจให้ผู้ถือหุ้น และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัทฯ ซึ่งจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปต่อยอดธุรกิจ สร้างความเข้มแข็ง พร้อมทั้งผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย รวมทั้งเชื่อว่า FTI จะเป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติครบเป็นหุ้นไฮบริด ทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ได้แน่นอน
สำหรับ FTI ประกอบธุรกิจนำเข้า ประกอบผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำครบวงจร ได้แก่ เครื่องกรองน้ำและอุปกรณ์ระบบกรองน้ำ ไส้กรอง สารกรอง ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำ รวมถึงให้บริการที่เกี่ยวข้อง สินค้าของบริษัทครอบคลุมผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มครัวเรือน กลุ่มใช้เชิงพาณิชย์ และกลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ และตราสินค้าต่างประเทศรวมทั้งสิ้นกว่า 23 ตราสินค้า ทั้งระดับ Premium Middle และ Economic