"ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป" ไตรมาสแรกกำไรโตแตะ 79.47 ล้านบาท หรือ 43.20% หลังได้รับปัจจัยหนุนจาก 3 ธุรกิจหลัก และมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารย้ำแผนปี 65 เดินหน้าเข้าสู่โลกดิจิทัลเต็มกำลัง ไม่หวั่นสถานการณ์ราคาเหรียญผันผวน เล็งเห็นโอกาสการลงทุน เหตุดีมานด์ลดทำให้ราคาเครื่องขุดลดลงเช่นกัน เชื่อมั่นการต่อยอดธุรกิจพลังงาน จะสามารถสร้าง New S Curve และสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565) บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 481.67 ล้านบาท ลดลง 1.83% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้การขายและบริการรวมจำนวน 490.66 ล้านบาท และมีผลกำไรตามการแบ่งปันกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 79.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.98 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 43.20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไร 55.49 ล้านบาท
"ในไตรมาส 1 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 481.67 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายหนังผืนสำหรับเบาะรถยนต์ตามจำนวนผลิตรถตามรุ่นที่ได้รับ รายได้จากการขายไฟฟ้าเป็นไปตามจำนวนเมกะวัตต์ที่บริษัทได้รับรวม 14 เมกะวัตต์ สำหรับรายได้จากการขายเรือและรถโดยสารขนาดเล็กเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และบริษัทมีรายได้อื่นจำนวน 9.06 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับไตรมาสนี้จำนวน 1.53 ล้านบาท และได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 1.97 ล้านบาท"
ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทฯ มีต้นทุนจากการขายและให้บริการลดลง ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงกระบวนการผลิต และการบริหารจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับผลประกอบการดีขึ้น ส่งผลทำให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 43.20%
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเข้าสู่โลกดิจิทัล โดยล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติกรอบวงเงินให้บริษัทฯ เข้าลงทุนซื้อเครื่องขุด Cryptocurrency จากคู่ค้าที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเครื่องขุดและงานซ่อมบำรุงรักษาได้แบบครบวงจร มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ และพร้อมวางแผนจัดซื้อเครื่องขุดชุดแรกเพื่อทำ "Bitcoin Green Mining" จำนวน 100 เครื่อง คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 นี้
"จากสถานการณ์ราคาเหรียญในปัจจุบันที่มีการปรับตัวลดลงอย่างมากนั้น ทางบริษัทฯ เล็งเห็นว่าเป็นโอกาสในการลงทุนเนื่องจากในสถานการณ์เช่นนี้ Demand ลดลง ทำให้เครื่องขุดจะลดราคาลงตามด้วย อีกทั้งเราสามารถเลือกจังหวะในการเข้าลงทุนเหมืองขุด Bitcoin ได้ในจังหวะที่เหมาะสม ทั้งนี้ CWT เองใช้กลยุทธ์เปลี่ยนกำลังไฟฟ้าเหลือใช้ที่เก็บไม่ได้ ให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นสกุลเงินที่เก็บรักษาได้และมีค่าในอนาคต ด้วยต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ CWT มีถูกกว่าราคาจากการไฟฟ้าหลายสิบเปอร์เซ็นต์"
นอกจากแผนการลงทุน Bitcoin Green Mining แล้ว บริษัทฯ ยังเล็งเห็นโอกาสจากการเสนอขายบริการไฟฟ้าจากพลังงานธรรมชาติ และไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดไม่น้อยกว่า 200 kWh จากกลุ่ม cwtGM สำหรับผู้ที่สนใจสร้างเหมืองขุด Cryptocurrency พร้อมงานบริการแบบครบวงจร นำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญดูแล Operation & Maintenance จาก DreamerX ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว และสามารถสร้าง New S Curve ให้ธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีให้ผู้ถือหุ้นต่อไป