ไทรทัน โฮลดิ้ง โชว์ผลงานไตรมาสแรกพลิกมีกำไรกว่า 22 ล้านบาท กวาดรายได้รวมเกือบ 185 ล้านบาท คาดแนวโน้มไตรมาส 2 สดใส หนุนภาพรวม 2565 เป็นปีที่ดี หลังเตรียมคว้างานประมูลโครงการใหญ่มูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาทเติมพอร์ต จากปัจจุบันตุน Backlog ในมือแล้วราว 2,700 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 3 ปี พร้อมเดินหน้าสร้าง New S-Curve ต่อจิ๊กซอว์การเติบโตแกร่ง ยืนยันฐานะการเงินแกร่ง D/E เพียง 0.63 เท่า กระแสเงินสดกว่า 400 ล้านบาท
น.ส.หลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN ผู้ดำเนินธุรกิจการลงทุนในธุรกิจอื่นเป็นหลัก (Holding Company) โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจด้านวิศวกรรมเฉพาะทาง (Specialized) เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2565 ว่า บริษัทฯ พลิกมีกำไรสุทธิ 22.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 168% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนจากที่มีผลขาดทุน 33.82 ล้านบาท มีรายได้รวม 184.68 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน
โดยธุรกิจก่อสร้างมีรายได้ราว 103 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของกลุ่มงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับระบบเดินรถไฟ 1,927% แตะ 49.34 ล้านบาท กลุ่มงานโครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันและงานวิศวกรรมใต้ดิน มีรายได้รวม 53.56 ล้านบาท และกลุ่มงานก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟ และสะพานข้ามทางรถไฟและข้ามทางแยก มีรายได้รวม 10.86 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจพลังงานมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเกือบ 20% แตะ 30.97 ล้านบาท และบริษัทฯ ยังมีรายได้อื่นๆ จากค่าเช่าอุปกรณ์และอุปกรณ์ รวมถึงการขายวัสดุสิ้นเปลืองเพิ่มเข้ามาอีก 20.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 226.64%
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น โดยค่าใช้จ่ายรวมลดลงกว่า 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 164.72 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 12.37% จากติดลบ 17.73% ในช่วงเดียวกันปีก่อน
น.ส.หลุยส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/2565 ต่อเนื่องครึ่งปีหลังสดใสหนุนภาพรวม 2565 เป็นปีที่ดี โดยบริษัทฯ เตรียมคว้างานประมูลโครงการใหญ่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,500 ล้านบาทเข้ามาเติมพอร์ต จากปัจจุบันที่มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 2,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ 3 ปีนับจากนี้ปี 2565 เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนขยายโอกาสทางธุรกิจสร้าง New S-Curve เพื่อต่อยอดการเติบโตก้าวกระโดด โดยปัจจุบันฐานะการเงินของบริษัทฯ ยังแกร่ง ด้วยระดับหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.63 เท่า และมีกระแสเงินสดในมือกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ และการขยายงานตามแผนที่วางอย่างแน่นอน