กูรูเชียร์ 7 หุ้นกลุ่มน้ำมันพืช CPI-LST-TVO-UVAN-UPOIC-VPO และ TVO ระบุรับอานิสงส์ถ้วนหน้า หลังอินโดฯ สั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม ขณะที่ราคาถั่วเหลืองพุ่งรับภัยแล้ง สงคราม เชียร์เก็งกำไรทุกตัว ขณะที่ราคาหุ้นพร้อมใจพาเหรดขึ้นรับข่าว
วานนี้ (27 เม.ย.) รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์ม หลังจากผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศขาดแคลน ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ รวมไปถึงวิกฤตการณ์ทางการเมือง จึงทำให้ประกาศห้ามการส่งออกดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลก และมีปริมาณคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก เพราะฉะนั้นการห้ามส่งออกครั้งนี้จึงส่งผลกระทบ มายังประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะราคาน้ำมันปาล์ม
CGS-CIMB แนะซื้อเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นปาล์มน้ำมัน-ถั่วเหลือง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จากบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำให้ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นกลุ่มปาล์มน้ำมันและถั่วเหลือง อย่าง CPI-LST-TVO-UVAN-UPOIC และ VPO เนื่องจากได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง หลังจากที่หัวหน้ารัฐมนตรีเศรษฐกิจอินโดนีเซียแถลงว่า อินโดนีเซียจะขยายมาตรการระงับการส่งออกน้ำมันปาล์ม
ทั้งนี้ อินโดฯ จะห้ามการส่งออกผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์มทุกประเภท ซึ่งรวมทั้งน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ (RPO) น้ำมันปาล์มโอเลอิน (RED) น้ำทิ้งจากกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์ม (POME) และน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว จากเดิมที่ระงับการส่งออกเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มโอเลอิน ซึ่งได้จากการนำน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์มาผ่านกระบวนการฟอกสี ขจัดกลิ่น และลดกรดไขมันอิสระ การประกาศมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ โดยอินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่สุดของโลก โดยมีปริมาณการส่งออกคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มทั่วโลก
KTBST เชียร์ TVO น้ำมันถั่วเหลืองรับอานิสงส์ด้วย
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า TVO ได้รับอานิสงส์ ราคาถั่วเหลืองจะยืนในระดับสูงตลอดทั้งปีจากปัญหาภัยแล้งในอเมริกาใต้ และสงครามยูเครน-รัสเซีย (ราคาน้ำมันถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น 1.3% เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ทำจุดสูงสุดเป็น ประวัติการณ์) โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ขึ้น +8% อยู่ที่ 2,187 ล้านบาท (+6% YoY) และคงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 2,036 ล้านบาท (-7% YoY)
โดยในปีนี้ที่คาดกำไรเพิ่มขึ้นเป็นไปตามแนวโน้มรายได้และ gross margin จากราคาขายสินค้าที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 66 ประเมินว่าราคากากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองไม่น่าจะยืนในระดับสูงได้ เทียบกับปีนี้ จึงมองว่าผลการดำเนินงานปี 66 จะหดตัว ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าราคาถั่วเหลืองจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างจะ fully value
ยังคงคำแนะนำ “ถือ” เนื่องจากเรามองว่าผลการดำเนินงานของบริษัทไม่มีการเติบโตโดดเด่นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า และมีความเสี่ยงจากราคาขายเฉลี่ยของทั้งน้ำมันถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองที่มีโอกาสปรับลดลงจากที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน
ขณะที่ราคาปิดหุ้นกลุ่มน้ำมันพืช วานนี้ (27 เม.ย.) ราคาหุ้น CPI ปิดที่ 4.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 3.52% มูลค่าการซื้อขาย 229.61 ล้านบาท TVO ปิดที่ 32 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.40% มูลค่าการซื้อขาย 48.79 ล้านบาท UVAN ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 5.91% มูลค่าการซื้อขาย 179.81 ล้านบาท UPOIC ปิดที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 6.79% มูลค่าการซื้อขาย 10.38 ล้านบาท และ VPO ปิดที่ 2.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 4.17% มูลค่าการซื้อขาย 92.91 ล้านบาท