เกษตรกรสวนปาล์มขอบคุณ “บิ๊กป้อม” 3 ปี เพิ่มรายได้ 2.3 แสนล้านบาท ดันปาล์มน้ำมันขึ้นแท่นพืชเศรษฐกิจแนวหน้า
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ให้การต้อนรับนายสุพิท มีแก้ว ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย พร้อมแกนนำเกษตรกรชาวสวนปาล์ม เข้าพบเพื่อให้กำลังใจและแสดงความขอบคุณ ในฐานะประธานกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ที่ได้ช่วยแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันให้เสถียรภาพมาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 7 ปี จนมูลค่าผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 5 หมื่นล้านบาทในปี 62 เป็น 1.1 แสนล้านบาทในปี 64
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มนำ้มันที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดโลก ด้วยมาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน เพื่อให้มีการบริหารจัดการสต๊อกส่วนเกินที่ สอดคล้องกับฤดูกาลผลิต และการส่งออกนำ้มันปาล์มเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน ให้เป็นไปตามโครงสร้างที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้ง การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ปาล์มนำ้มันเพื่อเพิ่มความต้องการใช้ภายในประเทศและส่งออกเป็นสินค้าสำเร็จรูป 8 ชนิด ทั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นให้พี่น้องชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา การยกระดับรายได้ของชาวสวนปาล์ม ได้ผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมูลค่าปาล์มทะลายเพิ่มจาก 5 หมื่นล้านบาทในปี 2562 เป็น 7 หมื่นล้านบาท ในปี 2563 และ 1.1 แสนล้านบาทในปี 2564 รวม 3 ปี 2.3 แสนล้าน และปี 2565 คาดว่าจะมีเม็ดเงินเป็นรายได้ตกถึงชาวสวนปาล์มอีก ไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้านบาท โดยที่รัฐไม่ต้องใช้เงินประกันรายได้เลยแม้แต่สตางค์เดียว ในขณะที่ผลิตผลการเกษตรอื่นกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจ แต่ราคาปาล์มน้ำมันวิ่งตามราคาตลาดโลก ทั้งที่โดนปรับลดส่วนผสมในไบโอดีเซลลงเท่าตัว จาก บี 10 เป็น บี5 และการบริโภคน้ำมันปาล์มภายในประเทศที่ลดลงจากผลกระทบของการสั่งปิดร้านอาหารป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ทั้งนี้ เรื่องสำคัญเร่งด่วนอีกประการ คือ การยกร่างพระราชบัญญัติใหม่สำหรับปาล์มน้ำมัน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้.