"ดิ เออบิ้ลฯ" รักษาสภาพคล่อง เบรกพัฒนาโครงการคอนโดฯ ปรับทิศมาปั้นแบรนด์ 'คิวเรเตอร์' รุกตลาดแนวราบ นำร่องโครงการแรก "คิวเรเตอร์ รามอินทรา 117" รูปแบบทาวน์โฮม พร้อมขยับไปเจาะตลาดโซนพระราม 5 เผยยังมีแลนด์แบงก์ในมือ รอโอกาสพลิกมาทำโครงการต่อ
นายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวถึงแผนธุรกิจในการลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ว่า ในช่วง 1-3 ปีจากนี้ บริษัทจะให้น้ำหนักในการรุกและขยายการลงทุนในตลาดโครงการแนวราบ เนื่องจากการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมในตอนนี้ยังไม่เอื้ออำนวย มีสต๊อกคงค้างของผู้ประกอบการคงเหลือเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ทางบริษัทดิ เออเบิ้ลฯ จะมีการเปิดโครงการแนวราบต่อเนื่องถึงปี 2567 โดยโครงการแรกจะพัฒนาภายใต้แบรนด์ "คิวเรเตอร์" (Curator) รูปแบบทาวน์โฮม ซึ่งปัจจุบันได้เปิดการขายโครงแรกได้แก่ "คิวเรเตอร์ รามอินทรา 117" บนพื้นที่ทั้งหมด 13 ไร่เศษ รูปแบบทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้นที่ 2.69-3.79 ล้านบาท จำนวน 151 ยูนิต มูลค่าโครงการ 497 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลในวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2565 นี้ ปัจจุบันมียอดขายแล้วในเฟสแรก 28 ยูนิต หรือประมาณ 80% จากทั้งหมด 3 เฟส
"โครงการของบริษัทฯ อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งราคาที่ดินในซอยรามอินทรา 117 ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เดิมซื้อขายประมาณ 7 ล้านบาทต่อไร่ แต่ปัจจุบันปรับขึ้นมาเท่าตัว และเชื่อว่าเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการประมาณเดือนสิงหาคมปีนี้ ราคาที่ดินต่อตารางวาอาจปรับขึ้นอีก 40,000 บาท ทำให้ผู้ประกอบการหาที่ดินในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้นไปอีก" นายสมภพ กล่าว
สำหรับโครงการใหม่ช่วงปลายปี 2565 จะมีแผนพัฒนาโครงการทาวน์โฮมในทำเลอื่นๆ โดยเฉพาะโซนตะวันออกของ กทม.อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากโครงการบนทำเลพระราม 5 เนื้อที่โครงการ 10 ไร่ ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.3 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 และ 2567 จะพัฒนาโครงการในทำเลย่านสายไหม และโครงการในทำเลเทพารักษ์-ศรีนครินทร์ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีที่ดินรองรับการพัฒนาอีก 3 แปลง คือ ทำเลสายไหม เทพารักษ์ และรังสิต คลอง 7 เป็นต้น
ในส่วนของโครงการที่บริษัทชะลอการพัฒนาในช่วงที่ผ่านมาว่า มีอยู่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการแซฟวี่ เสนา เดิมจะพัฒนาโครงการคอนโดฯ โลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท โครงการทาวน์เฮาส์ ย่านรังสิต คลอง 7 บนเนื้อที่ 18-19 ไร่ จำนวนทั้งสิ้น 140-150 ยูนิต ราคาประมาณ 1-1.6 ล้านบาท และโครงการ แอททิจูด พหลฯ-เสนาฯ เดิมจะทำเป็นคอนโดฯ โลว์ไรส์ จำนวน 124 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท แต่สภาวะตลาดคอนโดฯ ที่ยังชะลอตัว จึงต้องเลื่อนออกไปก่อน