Elon Musk ประกาศบรรลุข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการของ Twitter หลังมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทตัดสินใจขายกิจการด้วยมูลค่า 44000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยหลังจากการโอนถ่ายเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว Elon Musk ตั้งเป้าจะยกระดับมาตรฐานชุมชนและกระชับพื้นที่ Twitter ด้วยกฎระเบียบใหม่ โดยให้สัญญาว่าจะลดการเซ็นเซอร์บนแพลตฟอร์มลงให้ผู้ใช้สามารถมีอิสรภาพในการแสดงออกความคิดเห็นได้อย่างเสรีเต็มที่ แม้ว่าจะมีเนื้อหาที่เข้าข่าย Hate Speech หรือเป็นคำพูดแสดงความเกลียดชังก็ตาม แต่จะเข้มงวดกับการกวาดล้างบอท ซึ่งเป็นโปรแกรมคำสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ในระบบ เพื่อหวังผลประโยชน์ของผู้ใช้บางกลุ่ม และเน้นการกวาดล้างบัญชีอวตาร ทวิตเตอร์ หรือแอ็กเคานต์หลุมที่สร้างขึ้นมา โดยอาจใช้การยืนยันตัวตนแบบ 2FA เข้ามาใช้ เพื่อให้สามารถยืนยันตัวผู้ใช้งานเจ้าของบัญชีที่แท้จริง และรับผิดชอบต่อเนื้อหาในทวิตเตอร์ตามกระบวนการของกฎหมายในกรณีที่มีข้อพิพาทเกิดขึ้น ขณะที่การนำรูปแบบการยืนยันตัวตนแบบ 2FA มาใช้นั้น ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยง Twitter เข้ากับระบบบล็อกเชนตามแนวทางเดิมที่ jack dorsey CEO ของทวิตเตอร์กำหนดไว้ เพื่อใช้งานร่วมกับ metaverse NFT และการผนวกเข้ากับ digital wallet ในอนาคต
จากการเปิดเผยของสำนักข่าว reuters ระบุว่า Elon Musk ตัดสินใจซื้อ Twitter Inc. ด้วยเงินสดจำนวน 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการยกเครื่องมาตรฐานในการทำธุรกรรมที่จะเปลี่ยนการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียด้วยกฎระเบียบใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับบริษัทที่มีอายุ 16 ปี โดยที่ผ่านมา Twitter ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆมากมาย
Musk ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงระบบอัลกอริธึมในการกลั่นกรองของ Twitter ซึ่งเขากล่าวว่าหลังจากนี้จะลัดลำดับความสำคัญของ Twitter เสียใหม่ โดยจะเน้นความเป็นสาธารณะมากขึ้น และปฏิเสธที่จะให้บริการแก่องค์กรที่เน้นโฆษณามากเกินไปจนรกหน้าฟีดซึ่งสร้างความรำคาญต่อผู้ใช้งาน โดยสิ่งที่เขาจะเริ่มทำหลังจากซื้อกิจการเสร็จสิ้นและโอนถ่ายเรียบร้อยแล้วคือ จะผลักดันให้ทวิตเตอร์ต้องเป็นสังคมเสรีแห่งการแสดงความคิดเห็น แม้ว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเนื้อหารุนแรง จะไม่ถูกลบออกไป แต่หากผู้ที่ได้รับการพาดพิงและได้รับผลกระทบสามารถดำเนินการตามกระบวนทางกฎหมายได้ นอกจากนี้ เข้าจะปรับผัง Algorithm ของทวิตเตอร์ให้เป็นรูปแบบ Open Source ให้สาธารณะเพื่อให้มีความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ ตลอดจนกลุ่มนักพัฒนาสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือปรับปรุงการใช้งานให้ดีขึ้น เหมือนเช่นกรณีของ GitHub ที่เป็นศูนย์กลางของนักพัฒนา พร้อมกันนี้ เขาได้เตรียมแผนยุทธศาสตร์ในการจะกำจัด Spam Bot ที่สร้างความรำคาญออกจากทวิตเตอร์ให้หมด และเปลี่ยนระบบการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ทุกคน
ขณะที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองคาดหวังว่าระบบการบริหารในสไตล์ของมัสก์จะหมายถึงการกลั่นกรองและคืนสถานะให้บุคคลที่ถูกแบนน้อยลง รวมถึงอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ซึ่งถูกระงับการใช้บัญชี ขณะที่พรรคอนุรักษนิยมคาดหวังว่าจะมีการควบคุมข้อกำหนดที่น้อยลง ในขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนบางคนแสดงความกลัวว่าคำพูดแสดงความเกลียดชังจะเพิ่มขึ้นจากแนวทางการให้บริการที่เสรีทางความคิด ขณะเดียวกัน มัสก์ยังสนับสนุนการปรับแต่งบริการที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ เช่น ปุ่มแก้ไข และการรื้อระบบเพื่อกวาดล้าง "บอทสแปมในสารบบ" ที่ส่งทวีตที่ไม่ต้องการจำนวนมาก
“การพูดโดยเสรีเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตยที่ใช้งานได้ และ Twitter เป็นสื่อกลางในรูปแบบโซเชียลมีเดียดิจิทัลที่มีการโต้เถียงกันเรื่องสำคัญต่ออนาคตของมนุษยชาติ” มัสก์กล่าวในแถลงการณ์
ด้าน Jack Dorsey อดีต CEO ของ Twitter กล่าวถึงข้อตกลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วยการทวีตขอบคุณทั้ง Musk และ Parag Agrawal ซีอีโอของ Twitter คนปัจจุบันสำหรับ "การพาบริษัทออกจากสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้"
“Twitter ในฐานะบริษัทคือปัญหาเดียวของผมและผมเสียใจที่สุดจากการที่มันถูกครอบครองและะกำหนดโดย Wall Street และรูปแบบโฆษณา การดึงมันกลับมาจาก Wall Street เป็นขั้นตอนแรกที่ถูกต้อง” เขากล่าว
ในทันทีที่การเจรจาบรรลุข้อตกลงหุ้น Twitter ปรับเพิ่มขึ้น 5.7% ในวันจันทร์ โดยปิดที่ 51.70 ดอลลาร์ ซึ่งข้อตกลงนี้แสดงถึงพรีเมียมเกือบ 40% ของราคาปิดในวันก่อนที่ Musk เปิดเผยว่าเขาซื้อหุ้นมากกว่า 9% ถึงกระนั้นข้อเสนอก็ยังต่ำกว่าช่วง 70 ดอลลาร์ที่ Twitter ซื้อขายเมื่อปีที่แล้ว
ด้าน Jonathan Boyar กรรมการผู้จัดการของ Boyar Value Group ซึ่งถือหุ้นใน Twitter กล่าวว่า "ฉันคิดว่าหากบริษัทมีเวลาเพียงพอในการเปลี่ยนแปลง เราจะทำมากกว่าที่ Musk กำลังเสนออยู่อย่างมาก" อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเสริมว่า "หากตลาดสาธารณะไม่ได้ให้ความสำคัญกับบริษัทอย่างเหมาะสม ในที่สุดผู้ซื้อก็จะยอม"
Twitter กล่าวว่า Musk ได้รับเงินกู้จำนวน 25.5 พันล้านดอลลาร์และการจัดหาเงินทุนเพื่อซื้อหลักทรัพย์และให้ข้อผูกพันด้านทุนมูลค่า 21 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ข้อมูลของฟอร์บส์ ระบุถึงสินทรัพย์ของ มัสก์ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 268 พันล้านดอลลาร์ โดย มัสก์ กล่าวว่าเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับผลทางเชิงเศรษฐศาสตร์ของทวิตเตอร์เป็นหลัก
“การมีเวทีสาธารณะที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด และครอบคลุมในวงกว้าง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของอารยธรรม ฉันไม่สนเรื่องเศรษฐศาสตร์เลย” เขากล่าวในการพูดคุยในที่สาธารณะเมื่อไม่นานนี้ แต่ถึงกระนั้น บัญชี Twitter ที่มีจำนวน 84 ล้านบัญชีถูกมองว่าเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์และการตลาดที่สำคัญฟรีสำหรับ Tesla
แม้ว่า Twitter จะมีขนาดเป็นรองจาก Facebook ของ Meta Platforms Inc. อยู่หลายขุม แต่ Twitter ได้รับเครดิตในการเป็นสื่อกลางช่องทางการสื่อสารหลักการจลาจลใน Arab Spring และถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2564 ของการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯ
