ตลาดหุ้นที่ซบเซาในช่วงนี้ถือเป็นภาวะปกติของช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี ซึ่งมีวันหยุดยาว นักลงทุนจึงพากันชะลอซื้อขายหุ้น และหลังสงกรานต์หุ้นจะกลับมาคึกคักขึ้น
เพียงแต่ปีนี้อาจแตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มา เพราะหลังสงกรานต์หุ้นอาจไม่ฟื้น แต่ยังซึมต่อและมีแนวโน้มซึมยาว
เพราะตลาดหุ้นกำลังถูกมรสุมกระหน่ำเข้าใส่หลายด้าน จนดัชนีหุ้นถอยลงต่อเนื่อง หลุดจาก 1,700 จุด และลงมาตั้งหลักที่ 1,678.46 จุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ เป็นปัจจัยใหญ่ที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก จนกระดานหุ้นทั้งโลกแดงฉานติดต่อหลายวัน โดยไม่มีสัญญาณฟื้น และสงครามไม่มีแนวโน้มจะยุติลง แต่อาจจะรุนแรงหนักขึ้น สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก
ช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ไม่อาจประเมินได้ว่าสงครามจะยกระดับไปถึงขั้นไหน นักลงทุนแต่ละกลุ่มจึงพักการซื้อขาย ทำให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นลดลงเหลือระดับ 6 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศที่เคยซื้อหุ้นตลอด เริ่มขายออกมาบ้างเหมือนกัน
นอกเหนือจากผลกระทบสงครามยูเครนแล้ว นักลงทุนยังกังวลการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อสกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อ โดยสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.5% ทำให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้น ย้ายไปลงทุนในพันธบัตรแทน
รวมทั้งนักลงทุนยังจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังสงกรานต์ โดยคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้น ซ้ำรอยปีที่ผ่านมา ซึ่งจะกระทบต่อแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และซ้ำเติมเศรษฐกิจให้ทรุดลงไปอีก
การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรก โดยกลุ่มธนาคารจะนำร่องหลังสงกรานต์ ไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นตลาดหุ้นให้คึกคักได้ เพราะถ้ามีความมั่นใจว่า หุ้นกลุ่มธนาคารจะมีผลประกอบการที่ดี คงไม่มีการเทขายหุ้นจนราคาทรุดลงทั้งกลุ่ม
ดังนั้น ผลประกอบการกลุ่มธนาคารจึงไม่ใช่ข่าวดีที่รอคอย และแทบไม่มีข่าวดีอะไรที่จะกระตุ้นการลงทุนได้
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายสำนักประเมินไว้ก่อนหน้า ตราบใดที่สงครามยูเครนยังไม่จบ หุ้นจะวิ่งไปไม่ได้ไกลจาก 1,700 จุด ซึ่งดัชนีหุ้นติดกรอบ 1,700 จุดจริงๆ และกำลังถอยหลังลงมา โดยอาจถอยมาแตะแนวรับระดับ 1,650 จุด
จุดซื้อที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่แนะให้สู้หรือซื้อคือ ระดับ 1,650 จุด แต่นักลงทุนรายย่อยทนรอไม่ได้ และทยอยเข้าไปช้อนซื้อตั้งแต่ดัชนีหลุด 1,700 จุดแล้ว ทำให้ต้องแบกรับต้นทุนสูง เพราะซื้อแล้วราคาปรับตัวลง
ก่อนสงกรานต์ตลาดหุ้นเงียบเหงา ดัชนีทรุดตัวลงเช่นเดียวกับหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่นักลงุทนรอลุ้นหรือตั้งความคาดหวังกันคือ หลังสงกรานต์หุ้นน่าจะกระเตื้องขึ้นบ้าง แม้ยังมองไม่เห็นปัจจัยที่จะกระตุ้นก็ตาม
ข่าวร้ายปัจจัยลบที่ยังครอบงำอาจทำให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาพทรงๆ ทรุดๆ ต่อไป ขณะที่นักลงทุนไม่กล้าผลีผลามไล่ซื้อหุ้น นอกจากเฝ้ารอดูสถานการณ์ยูเครนต่อไป
โอกาสที่ดัชนีจะดีดกลับขึ้นไปแตะระดับ 1,700 จุดอีกครั้ง มีความเป็นไปได้น้อยกว่า การที่ดัชนีจะปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,650 จุด
นักลงทุนที่เงินสดยังเหลือติดมือ และอยากช้อนหุ้นเก็บ หลังสงกรานต์อาจมีจังหวะได้ซื้อแถว 1,650 จุด