xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนขายหุ้นลดเสี่ยงก่อนหยุดสงกรานต์-จีนเข้มคุมโควิด กดหุ้นไทยปิดร่วง 7.54 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -7.54 จุด โบรกชี้นักลงทุนเทขายหุ้นไทยเน้นถือเงินสด ลดความความเสี่ยงก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ซึ่งหยุดยาวหลายวัน กอรปกับสถานการณ์ความตึงเครียดการคุมเข้มการระบาดโควิดรอบใหม่ในจีนที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเมินกรอบการลงทุนมองแนวรับที่ 1,665-1,670 จุด และแนวต้านที่ 1,680-1,685 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 11 เมษายน 2565 ปรับตัวลดลง -7.54 จุด หรือ -0.45% โดยปิดตลาดที่ 1,678.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,755.06 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ SET INDEX แกว่งตัวในทิศทางขาลงและเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,685.95 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดงต่ำสุดที่ 1,675.95 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 443 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 355 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,457 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,581.10 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -810.34 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -396.16 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -374.60 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,726.26 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
2.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,584.35 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
3.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,832.72 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,383.05 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
5.KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,364.93 ล้านบาท ปิดที่ 61.00 บาท ลดลง 2.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BCH ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น +0.70 บาท หรือ +3.23%
2.MEGA ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท หรือ +3.23%
3.BDMS ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท หรือ +3.00%
4.SPALI ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท หรือ +2.28%
5.PTTEP ปิดที่ 146.00 บาท เพิ่มขึ้น +3.00 บาท หรือ +2.10%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SYNEX ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง -1.00 บาท หรือ -3.81%
2.HANA ปิดที่ 44.75 บาท ลดลง -1.75 บาท หรือ -3.76%
3.KCE ปิดที่ 61.00 บาท ลดลง -2.25 บาท หรือ -3.56%
4.BEC ปิดที่ 16.40 บาท ลดลง -0.50 บาท หรือ -2.96%
5.GPSC ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง -2.00 บาท หรือ -2.80%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,278.61 จุด ลดลง -9.08 จุด หรือ -0.40% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,002.47 จุด ลดลง -3.86 จุด หรือ -0.38% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 649.21 จุด ลดลง -8.21 จุด หรือ -1.25%

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากปัจจัยภายนอกความกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนพุ่งสูงขึ้น ทำให้ยังเห็นการล็อกดาวน์ต่อเนื่อง อาจส่งผลกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับเกิดแรงขายลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นปัจจัยเข้ามากดดันดัชนีในวันนี้

ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบและซึมตัวลงช่วงก่อนเข้าวันหยุดยาว ซึ่งการซื้อขายอาจจะยังไม่คึกคักเช่นเดียวกับวันนี้ เพราะปัจจัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุลของสหรัฐ ฯ และตลาดรับรู้ไปมากแล้ว ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยที่กดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) เร่งตัวขึ้นสูงคอยกดดันอีกด้วย โดยประเมินกรอบการลงทุนมองแนวรับที่ 1,665-1,670 จุด และ แนวต้านที่ 1,680-1,685 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น