ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีสถานที่สำคัญและมีแหล่งธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยบริษัทฯ นอกจากกำลังพัฒนาพื้นที่เตรียมเปิดโครงการใหม่ “ศุภาลัย ทัสคานี วัลเล่ย์” แล้ว ยังได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยการขายที่ดินส่วนหนึ่ง 7 ไร่เศษ ให้แก่ นางเรณุตรา เมฆอุไร ประธานกรรมการบริหาร และ น.ส.สาริศา เมฆอุไร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านสุขภิรมย์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการโครงการ “กาดฝรั่ง วิลเลจ”
การร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจของ บมจ.ศุภาลัย “Built for Real Life…บ้านที่คิดจากชีวิตจริง” ด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยคำนึงถึงความต้องการของลูกบ้านเป็นสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ “ศุภาลัย ทัสคานี วัลเล่ย์” และไลฟ์สไตล์ มอลล์แห่งใหม่นี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและความคึกคักให้เศรษฐกิจ รวมทั้งพัฒนาพื้นที่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ ให้ชาวเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างลงตัว
น.ส.สาริศา เมฆอุไร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านสุขภิรมย์ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการ “กาดฝรั่ง วิลเลจ หางดง” เป็นที่แรก และปัจจุบันกำลังเตรียมเปิดโครงการแห่งที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่บนถนนโชตนา อำเภอแม่ริม ก่อนทางเลี่ยงตัวเมืองแม่ริม ไปสู่เส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับโครงการ “ศุภาลัย ทัสคานี วัลเล่ย์”
ทางบริษัท บ้านสุขภิรมย์ จะพัฒนาเป็นโครงการบูทีค ไลฟ์สไตล์ มอลล์ “เดอะ กาดฝรั่ง แม่ริม” ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจ.เชียงใหม่ ที่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน ใน อ.แม่ริม ประกอบไปด้วย ริมปิงซูเปอร์มาร์เกต ร้านค้า ร้านอาหารแบรนด์ดังมากมาย รวมทั้งบริการต่างๆ อย่างครบครัน ขณะที่โครงการได้มีการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว เป็นลักษณะ Beyond Rest Area + Lifestyle Mall + Mae Rim Market Place แบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่
1.Drive-Thru เป็นโครงการที่ร้านค้าแบรนด์ Drive-Thru มากที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของทุก Lifestyle
2.Flagship Store
3.Food & Restaurant (Inter Brand)
4.Supermarket
5.บริการ
6.ตลาด (เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการนำผลิตภันฑ์ที่ผลิตมาจำหน่าย) โดยมีการบริหารจัดการที่ตระหนักถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยการรักษาบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่มีอยู่และพัฒนาตกแต่งสวน ปลูกไม้ดอก ไม้พรรณนานาชนิดให้สอดคล้องกลมกลืนกับรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นล้านนาผสมผสานกับยุโรป (Modern Lanna European Style) มุ่งตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของครอบครัวรุ่นใหม่ และเป็นจุดแวะพักของนักท่องเที่ยว โดยโครงการเริ่มก่อสร้างแล้วและมีกำหนด Soft Opening ต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ภายในสิ้นปี 2565 และเตรียมเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 1 ปี 2566
