xs
xsm
sm
md
lg

SCB เผยผู้ถือหุ้นโยกไป SCB X กว่า 90% เตรียมปิดดีลตามแผน 18 เมษายนนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




วันนี้ (4 เม.ย.) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ได้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 199 ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยในระหว่างการประชุมได้มีผู้ถือหุ้นสอบถามถึงความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างของธนาคารไทยพาณิชย์ โดยการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจการเงิน SCB X โดยนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ขณะนี้การปรับโครงสร้างดังกล่าวอยู่ระหว่างการทำคำเสนอแลกหุ้นระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์กับกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCB X) ในอัตรา 1 ต่อ 1 หุ้น ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันที่ 18 เมษายน 2565 โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีผู้ถือหุ้นธนาคารพาณิชย์ยินยอมแลกหุ้นกว่า 90% ทั้งนี้ ล่าสุด ณ ปัจจุบันได้รับทราบว่า มีผู้ถือหุ้นที่มาดำเนินการแลกหุ้น และแสดงเจตจำนงในการแลกหุ้นตามแผนการปรับโครงสร้างในอัตราเกินกว่า 90% แล้ว สำหรับขั้นตอนต่อไปจะนำหุ้น SCB X เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกับที่จะถอนหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ คือวันที่ 27 เมษายน 2565


นอกจากนี้ ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินปันผลระหว่างกาลที่ธนาคารจะจ่ายจากกำไรสุทธิประจำปี 2564 และกำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะล่าสุดของธนาคารให้แก่บริษัทเอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ในขณะนั้นของธนาคาร ตามที่ได้รับอนุมัติในหลักการที่จะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคาร ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 จากจำนวนประมาณ 70,000 ล้านบาท เป็นจำนวนประมาณ 61,000 ล้านบาท และรับทราบการจัดสรรกำไรสำหรับงวดครึ่งปีหลังของปี 2564 ที่เหลือจากการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนทั้งสิ้นของธนาคาร ณ วันที่ 30 เม.ย.2565 เป็นเงินกองทุนทั้งสิ้นของธนาคาร เพิ่มขึ้นเป็น 432,897 ล้านบาท คิดเป็น 18.6% ของสินทรัพย์เสี่ยง และเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ เพิ่มขึ้นเป็น 407,720 ล้านบาท คิดเป็น 17.5% ของสินทรัพย์รวม

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า ธนาคารคาดว่าปี 2565 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่ทั่วถึง รวมถึงยังคงมีความผันผวนและความเสี่ยงในเรื่องของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อัตราเงินเฟ้อ และค่าเงินบาท ดังนั้น กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจธนาคารจะเป็นไปแบบระมัดระวัง โดยยังคงให้ความสำคัญต่อการบริหารคุณภาพของสินทรัพย์ ควบคู่ไปก้บการช่วยเหลือลูกค้าให้ผ่านช่วงวิกฤตโดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน ธนาคารมุ่งที่จะบริหารค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อปรับรูปแบบการให้บริการ และเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทางดิจิทัล โดยพัฒนาธนาคารดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการเติบโตทางธุรกิจนั้น ธนาคารเน้นขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและธุรกิจนายหน้าขายผลิตภัณฑ์ประกัน สร้างระบบนิเวศผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า นำข้อมูล และเทคโนโลยีมาใช้เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ตรงจุดและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารไม่มุ่งเน้นการเติบโตของสินทรัพย์ แต่จะเติบโตธุรกิจอย่างมีคุณภาพ โดยพิจารณาความสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน เอสซีบี เอกซ์ ธนาคารไทยพาณิชย์จะยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แก่กลุ่ม อย่างไรก็ดี จากสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่อุตสาหกรรมธนาคารเติบโตในอัตราที่ชะลอตัว มีการแข่งขันที่เข้มข้น ขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าไปใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ธนาคารจึงมุ่งที่จะปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจพัฒนาสู่การเป็นการธนาคารที่ดีขึ้น (To Be A Better Bank) เพื่อสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจที่เหมาะสมและยั่งยืน โดยปรับเปลี่ยนจากธนาคารที่ให้บริการครบวงจรสู่การให้บริการแบบมุ่งเน้นในธุรกิจที่คัดสรรแล้ว และเน้นการให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลและธนาคารดิจิทัล


กำลังโหลดความคิดเห็น