2 วันติดๆ หุ้นบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC พุ่งทะยานขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% หรือซิลลิ่ง โดยไม่มีปัจจัยใดสนับสนุน และไม่ถูกตลาดหลักทรัพย์แจกใบเหลือง รอดจากมาตรการกำกับการซื้อขาย ทั้งที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวผิดปกติ
MSC เป็นหุ้นที่สงบเสงี่ยม ไม่อยู่ในความสนใจนักลงทุนมากนัก เพราะไม่ติดอยู่ในกลุ่มหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม โดยราคาขยับขึ้นลงแถวๆ 6 บาทอยู่พักใหญ่
เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ราคาปิดที่ 5.80 บาท หลังจากนั้นเริ่มต้นวิ่ง ถูกกระชากขึ้นแรงชนซิลลิ่ง 2 วันซ้อน คือ ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม จนราคาพุ่งขึ้นปิดที่ 10 บาท
ภายในเวลา 5 วันทำการ ราคาหุ้น MSC ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.20 บาท หรือเพิ่มขึ้น 72.41% โดยไม่มีข่าวดีกระตุ้น และไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามไปยัง MSC ถึงพัฒนาการของการดำเนินงานที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งบริษัทชี้แจงว่า ไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ส่งผลต่อราคาหุ้น
คำถามคือ ทำไม MSC จึงร้อนแรงขึ้นมา มีใครอยู่เบื้องหรือไม่ มีข้อมูลภายในอะไรที่นักลงทุนทั่วไปยังไม่รู้
และมีใครกำลังลากนักลงทุนรายย่อยไปเชือดหรือไม่
MSC เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ โดยก่อนที่ราคาจะถูกลากขึ้นมา ค่าพี/อี เรโชประมาณ 10 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 5% ขณะที่ผลประกอบเริ่มกลับมาเติบโต หลังกำไรชะลอตัวหลายปีติดต่อ
ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 283.26 ล้านบาท ปี 2562 กำไรสุทธิ 220.32 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิ 155.79 ล้านบาท และปี 2564 กำไรสุทธิ 197.29 ล้านบาท
โครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท เมโทรแวลูครีเอชั่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 24.54% และกลุ่มจารุวจนะ ถือหุ้นรวมกันประมาณ 8% ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีจำนวน 1,709 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 30.98% ของทุนจดทะเบียน
MSC ไม่มีประวัติเป็นหุ้นร้อน โดยมีลักษณะหุ้นเพื่อซื้อลงทุน โดยมีอัตราเงินปันผลที่จูงใจ แต่ราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงหลายวันติด ทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมที่ผิดปกติ และอาจมีคนที่รู้ข้อมูลวงในมาไล่ซื้อหุ้นเก็บตุน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ได้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวแล้ว และหากราคาถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรงต่อไปคงจะถูกมาตรการกำกับการซื้อขาย กลายเป็นหุ้นตัวแรกที่ประเดิมรับมาตรการสกัดหุ้นร้อนที่ยกระดับความเข้มข้นขึ้น
4 เมษายนนี้ มาตรการกำกับการซื้อขายที่ยกระดับความเข้มข้นขึ้นจะมีผลบังคับใช้ โดยมาตรการระดับที่ 1 กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสดหรือบัญชีแคชบาลานซ์ และห้ามนำหุ้นคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย ระดับที่ 2 เพิ่มเติมจากระดับที่ 1 ด้วยการห้ามเนทเซทเทิลเมนท์หรือห้ามหักลบค่าชำระราคาซื้อขายหุ้นภายในวันเดียว
และระดับที่ 3 ห้ามซื้อขายหุ้น 1 วันทำการ และแม้จะเปิดให้ซื้อขายใหม่ แต่ยังคงดำเนินมาตรการระดับที่ 1 และ 2 ต่อไป ตามระยะเวลาที่ประกาศใช้มาตรการ
มาตรการกำกับการซื้อขายที่ใช้อยู่เดิมไม่อาจสยบความร้อนแรงหุ้นที่ซื้อขายผิดปกติได้ เพราะมีหุ้นนับสิบตัวที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง แม้จะถูกมาตรการกำกับการซื้อขายทั้ง 3 ระดับแล้วก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์จึงงัดมาตรการพักการซื้อขาย 1 วันมาใช้
นักลงทุนกำลังเฝ้าจับตาว่าหุ้นร้อนตัวไหนจะสังเวยมาตรการพักการซื้อขายหุ้น 1 วัน เพราะมีหุ้นที่ถูกลากราคาขึ้นอย่างร้อนแรงผิดปกติตลอดเวลา
และ MSC เป็นหุ้นร้อนที่ราคาพุ่งผิดปกติตัวล่าสุด