ลลิลฯ เผยลูกค้าตอบรับเทรนด์แฟชั่นหรูฝรั่งเศส “French Colonial Style” เร่งสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญแบบบ้านในตลาด หันมาปรับรูปแบบดีไซน์ในสไตล์ยูโรเปี้ยนกันมากขึ้น ล่าสุด เดินหน้าสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานให้เกิดขึ้นจริงอย่างยั่งยืนเพื่อพัฒนาสู่อัตลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การออกแบบบ้านถือเป็นจุดสะท้อนความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่เพียงแต่ต้องมีความสวยงามและครบครันเรื่องฟังก์ชันเท่านั้น แต่ความพิถีพิถันด้านการออกแบบในทุกส่วน ทั้งในและนอกตัวบ้านเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเช่นกัน การพัฒนาปรับเปลี่ยนแบบบ้านจึงเกิดขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสนิยมได้อย่างทันท่วงที
“จากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันนอกจากปัจจัยด้านทำเลและราคาแล้ว ผู้บริโภคยุคใหม่ยังให้ความสำคัญด้านการออกแบบที่ช่วยลดการใช้พลังงาน สามารถอยู่อาศัยได้สบาย และที่สำคัญต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อบ้านของผู้บริโภคในปัจจุบัน “ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จึงพัฒนาทีมออกแบบที่แข็งแกร่งขึ้นภายในองค์กร เพื่อรวบรวมข้อมูลความต้องการของลูกค้า โดยหยิบนำมาต่อยอดและพัฒนาโครงการให้ได้ใช้งานอย่างเหมาะสม ทำให้เป็นการสร้างรากฐานแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ด้วยการนำแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้ามาช่วยในเรื่องการลดใช้พลังงานภายในโครงการได้อย่างลงตัว”
เพราะเชื่อว่าหากเริ่มต้นการออกแบบได้ดีแล้ว ย่อมสร้างให้เกิดความพึงพอใจในการอยู่อาศัย ทีมออกแบบของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จึงได้เริ่มวางแผนตั้งแต่แนวคิดโครงการ พัฒนาทั้งส่วนบ้านและส่วนกลางให้เป็นมิตรกับธรรมชาติ ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และที่สำคัญช่วยลดภาระให้ลูกบ้านด้วยการลดการใช้พลังงานและน้ำภายในโครงการ
“เราคิดเผื่อให้ลูกบ้านได้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เริ่มจากแนวคิดการออกแบบบ้านตั้งแต่วางผังบ้านให้ลดการปะทะแสงแดด โดยจัดทำเชิงชายให้ยื่นออกมาเพื่อบดบังในกรณีที่มีแสงจัดๆ ส่องเข้าตัวบ้าน การติดตั้งฝ้าที่มีระบบระบายอากาศ ทำให้สามารถถ่ายเทอากาศได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีโถงเพดานที่สูง ช่วยในเรื่องความโล่งโปร่งสบาย ซึ่งโครงการของเราจะใช้โครงสร้างระบบพรีคาสท์เพื่อลดการใช้ไฟและการใช้น้ำในกระบวนการก่อสร้าง ทั้งยังช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย นอกจากนี้ การเลือกสรรวัสดุตกแต่งก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ บริษัทฯ พยายามเฟ้นหาวัสดุคุณภาพที่ใช้ทดแทนไม้ หิน และอื่นๆ เพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เลือกใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดน้ำและไฟฟ้า รวมถึงการเลือกใช้สี Silver Nano Technology ช่วยป้องกันไวรัสตระกูลโคโรนาในสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย” นายชูรัชฏ์ กล่าวเสริม
ด้านการออกแบบภายนอกนั้น ทีมออกแบบของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก็ใส่ใจไม่น้อยไปกว่าส่วนของตัวบ้าน เพราะได้นำการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มาติดตั้งในพื้นที่ส่วนกลาง และใช้ระบบน้ำหมุนเวียนเพื่อบริหารจัดการน้ำส่วนกลางให้ไม่เกินความจำเป็น ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางแก่ลูกบ้านอีกด้วย “ทีมนักออกแบบได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการให้สามารถถ่ายทอดความประทับใจและส่งมอบประสบการณ์ใหม่สู่ลูกบ้าน โดยการสร้างอัตลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ผ่านประสาทสัมผัสเพื่อเพิ่มความสุขในการอยู่อาศัย เช่น การคัดสรรพันธุ์ไม้ที่มีสีสันสวยงาม มีกลิ่นหอมช่วยบำบัดความรู้สึกในพื้นที่สีเขียว อีกทั้งยังเลือกใช้ไม้ยืนต้นที่มีใบแผ่ขยายปกคลุมให้ร่มเงายามกลางวัน และช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในโครงการให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น” นายชูรัชฏ์ กล่าวถึงแนวคิดการออกแบบอันเป็นอัตลักษณ์
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีการพัฒนาส่วนงานด้านการออกแบบอยู่เสมอ โดยคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน เพราะถือเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เราต้องการสร้างวิธีคิดและกำหนดมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาบ้านที่สามารถใช้พื้นที่ทั้งภายในและภายนอกได้จริง โดยใช้ประโยชน์จากการออกแบบมาเป็นตัวสร้างมูลค่าความสุขในการอยู่อาศัยของลูกบ้านของเรา” นายชูรัชฏ์ กล่าว