หุ้นปิดบวก 2.94 จุด ดัชนีแกว่งในกรอบแคบ-วอลุ่มบาง แต่ยังบวกตามตลาดหุ้นอาเซียน คาดเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก และแรงซื้อหุ้นพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกังวลอุปทานตึงตัว ขณะที่ตลาดรอผลประชุม NATO ในคืนนี้จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มหรือไม่ ซึ่งจะชี้ทิศทางพรุ่งนี้
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบ และวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง แต่ยังปิดบวกได้ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ (กลุ่ม TIP) รวมถึงสิงคโปร์ และมาเลเซีย คาดว่าเม็ดเงินต่างประเทศ (Fund Flow) ไหลเข้า โดยวันนี้หุ้นขนาดกลางและเล็กปรับตัวขึ้นมาแต่ไม่ได้มีผลต่อภาพรวมดัชนีมากนัก
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทั้งน้ำมันและถ่านหินปรับตัวขึ้นช่วยพยุงตลาดไว้ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่เหนือ 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าบริษัท แคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัสเซียและคาซัคสถานไม่สามารถส่งออกน้ำมันจากโรงงานที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดำ เนื่องจากได้รับความเสียหายจากพายุ และต้องใช้เวลาซ่อมแซมราว 1 เดือนครึ่ง
นอกจากนี้ ตลาดรอการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่มีสมาชิกหลักอย่างสหรัฐฯ และชาติยุโรปจะมีมาตรการคว่าบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหรือไม่ แต่คาดว่ายุโรปไม่ต้องการคว่ำบาตรเพิ่ม เนื่องจากราคาน้ำมันสูงจากเหตุการณ์ CPC ไม่สามารถส่งน้ำมันได้ หากคว่ำบาตรอีกจะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น เป็นแรงกดดันเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,680.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.18% มูลค่าการซื้อขาย 66,566.59 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการประชุม NATO คืนนี้ แต่คาดว่าจะไม่มีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม พร้อมให้แนวต้านที่ 1,690 จุด แนวรับที่ 1,670 จุด