"มีนาทรานสปอร์ต" ปี 65 ต่อยอดความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ให้บริการรถมิกเซอร์ระดับแนวหน้าของไทย ขยายธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ครอบคลุมฐานลูกค้ากลุ่มสินค้าเฉพาะทางมากขึ้น รับอานิสงส์ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว อุตสาหกรรมการก่อสร้างเร่งงานในมือ ส่งผลดีต่อ MENA เติบโตไปพร้อมกัน จากปัจจุบันมีรถขนส่งพร้อมให้บริการอยู่ที่ 649 คัน มองเป้ารายได้เติบโตอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 5-10%
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ กางแผนธุรกิจปี 65 ใส่เกียร์เดินหน้าขยายตลาดและฐานลูกค้าใหม่ จากปัจจุบัน MENA มีรถขนส่งที่มีจำนวนถึง 649 คัน แบ่งเป็นรถมิกเซอร์ 464 คัน รถเทรลเลอร์ 72 คัน หางพ่วงชนิดต่างๆ กว่า 105 หาง และรถบรรทุก 4-10 ล้อ 8 คัน เพื่อรองรับการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคต
โดยในไตรมาส 1 ปี 2565 นี้ บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยับเพิ่มฟลีทรถการให้บริการรวมมากกว่า 80 คัน เจาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและวัตถุดิบอุตสาหกรรม โดยเป็นรถควบคุมอุณหภูมิ จำนวน 14 คัน รถขนส่งสินค้าเฉพาะทาง จำนวน 11 คัน รถบรรทุกสำหรับงานกระจายสินค้า 43 คัน ซึ่งเริ่มวิ่งให้บริการในเดือนมีนาคมแล้ว จำนวน 15 คัน และจะทยอยให้บริการในไตรมาส 2 อีก 28 คัน ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างและลดความผันผวนของฤดูกาลลง เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีการขนส่งสม่ำเสมอตลอดทั้งปี รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าไปจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อให้ MENA เป็นบริษัทที่ให้บริการขนส่งสินค้าทางบกได้อย่างครอบคลุมชนิดสินค้าและในหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น
อีกทั้งในฝั่งของรถมิกเซอร์ (Mixer) ที่เป็นรายได้หลักของบริษัท ในไตรมาสแรกของปียังออกรถใหม่เพิ่มเติม จำนวน 6 คัน และหางพ่วง 2 คัน ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในการให้บริการขนส่งสินค้า เพื่อรองรับการใช้ปูนซีเมนต์ที่คาดว่าจะมีดีมานด์ล้นอย่างแน่นอนจากการชะลอแผนก่อสร้าง และอั้นมานานกว่า 2 ปี ทำให้ต้องเร่งการก่อสร้างเพื่อให้เป็นไปตามแผน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่บริษัทขยายจำนวนรถมาเพื่อรองรับการขนส่งที่เพิ่มมากขึ้นในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ดี หลังจากอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มกลับมาฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์กลับมามากขึ้น รถขนส่งมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน มองว่าทิศทางไตรมาส 1 ปรับตัวจากสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รถมิกเซอร์จะกลับมาวิ่งกันอย่างคึกคัก ทำให้การเพิ่มปริมาณรถในไตรมาส 1 นี้ จะเข้ามารองรับการขนส่งที่มากขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“MENA เราเริ่มสตาร์ทรถใหม่ให้บริการขนส่งสินค้าบ้างแล้วบางส่วน และยังรอส่งมอบรถใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในอีก 1-2 เดือนนี้ โดยเราเน้นการขนส่งที่มีมาตรฐาน ทั้งสินค้าและบริการด้วยราคาที่เหมาะสม ไม่เพียงเท่านี้ เรายังไม่หยุดที่จะศึกษาและมองหาโอกาสในการเติบโตในเทรนด์ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เพื่อผลักดันให้ MENA เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางบกที่มีรถให้บริการได้หลากหลายประเภทและอุตสาหกรรม โดยการเพิ่มฟลีทรถใหม่ และขยายฐานลูกค้าที่มากขึ้นในปีนี้ คาดว่าจะทำให้ MENA สามารถทำเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 5-10%” นางสุวรรณา กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการรวมอยู่ที่ 561.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.2 จากการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในไตรมาสที่ 3/2565 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ยังคงรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ได้ที่ 5.8% โดยไตรมาส 4/2564 มีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จบริการขนส่ง และการขายคอนกรีต ขี้เถ้าลอย จำนวน 149.5 ล้านบาท ฟื้นตัวจากมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในไตรมาส 3/2564 และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จำนวน 6.3 ล้านบาท คิดเป็น 4.4% กำไรสุทธิ จำนวน 12.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.8 ล้านบาท คิดเป็น 28.7%