สมาคมการท่องเที่ยวภูเก็ต (PTA) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังพิจารณาแนะนำวิธีการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลสำหรับนักเดินทางชาวรัสเซียในประเทศไทย ซึ่งเป็นความช่วยเหลือตามมาตรการฉุกเฉิน เนื่องจากพลเมืองของรัสเซียต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านมาตรการคว่ำบาตรของประเทศในเศรษฐกิจด้านต่างๆ ส่งผลให้ได้รับผลกระทบต่อประชาชนที่ตกค้างอยู่ในประเทศต่างๆ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายหลังการประกาศสงครามกับยูเครน
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซีที่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและยูเครนถืออยู่นำมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อเป็นมาตรการฉุกเฉินในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในยามวิกฤต
“วิธีการนำคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้จะเป็นหนึ่งในตัวเลือก หรือเป็นแผนสำรองเอาไว้ หากการใช้จ่ายเงินไม่สามารถทำได้ และจะหาวิธีดำเนินการอื่นต่อไป รวมทั้งหารือถึงการเชื่อมต่อระบบ Mir ซึ่งเป็นระบบชำระเงินของรัสเซียที่ตั้งขึ้นมาด้วยว่าจะช่วยเรื่องการทำธุรกรรมการเงินได้หรือไม่”
ขณะที่จากผลกระทบที่เกิดขึ้นเนื่องจาก “ปฏิบัติการทางทหาร” ของรัสเซียในการเข้าโจมตียูเครน ทำให้หลายประเทศประกาศมาตรการคว่ำบาตร โดยถอดถอนธนาคารรัสเซียออกจากระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ SWIFT ในเวลาเดียวกัน บริษัทใหญ่ๆ เช่น Visa, Mastercard และ PayPal ได้ประกาศหยุดให้บริการแก่ลูกค้าในรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้พบรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต แบ่งเป็นชาวรัสเซียประมาณ 3,500-4,000 คน และชาวยูเครนประมาณ 300-400 คน ในขณะที่นักท่องเที่ยวอีกกว่า 3,000 คนจากทั้ง 2 ประเทศกำลังพักผ่อนที่เกาะสมุย กระบี่ และพัทยา โดยเอกชนได้หารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เกี่ยวกับแนวทางในการดูแลนักท่องเที่ยวแล้ว
นอกจากนี้ ได้มีการพิจารณาการจัดเที่ยวบินพิเศษรองรับชาวรัสเซียเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางกลับ สามารถให้เดินทางกลับประเทศได้เนื่องจากวีซ่าระบุไว้ให้พำนักในประเทศไทยได้เพียง 60 วันเท่านั้น แต่ในทางกลับกัน รัฐบาลได้ยืดหยุ่นข้อกำหนดในประกาศที่จะไม่ส่งนักท่องเที่ยวจากประเทศใดประเทศหนึ่งส่งตัวกลับประเทศโดยที่ไม่เต็มใจ เนื่องจากเข้าใจดีถึงมาตรการความปลอดภัยจากภาวะสงคราม ขณะเดียวกัน จากผลการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้มีการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาฉุกเฉินที่เกิดขึ้น เช่น การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าให้นักท่องเที่ยว การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ตลอดจนถึงการแก้ปัญหาด้านการประกันภัยนักท่องเที่ยว
"ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ในส่วนค่าเงินของรัสเซียเองก็ลดลง หากความขัดแย้งยังยืดเยื้อและสถานการณ์ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกได้ โดยเฉพาะการที่รัสเซียตัดท่อส่งก๊าซไปยังประเทศในยุโรป ทำให้ประเทศเหล่านั้นจะต้องไปหาต้นทุนในการจัดการความร้อนเพิ่มเติม หรือต้องไปซื้อน้ำมันจากที่อื่น จะทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งกระทบระดับโลก เกินความสามารถในการดูแลของทางสมาคมฯ ไปค่อนข้างมาก” นายภูมิกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ น.ส.นันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้ ททท.สำนักงานภูเก็ต ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยขณะนี้ได้ตั้งคอลเซ็นเตอร์ขึ้นที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต เพื่อให้คำปรึกษาช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่พัก เรื่องของปัญหาทางด้านการเงิน ซึ่งในเรื่องของการเงินนั้นทางส่วนกลางกำลังอยู่ระหว่างการหารือว่าจะแก้ปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวอย่างไร ขณะที่การต่อวีซ่านั้นทาง ททท.ได้ประสานไปยัง ตม.แล้ว
ส่วนผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหลังจากมีการยกเที่ยวบินจากรัสเซียเข้าภูเก็ต พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาลดลง แต่ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอยู่ โดยส่วนหนึ่งเดินทางมาสายการบินที่บินเชื่อมโยงจาก Moscow หรือ St.Petersburgh ที่สามารถมาเปลี่ยนเครื่องเพื่อเข้าภูเก็ตจาก Dubai Doha หรือ Abhu dabi หรือ Istanbul แต่สัดส่วนไม่มากนัก