xs
xsm
sm
md
lg

แทรนดาร์คาดอาคารสำนักงานเพื่อสิ่งแวดล้อมปี 65 โต 20% ตามเทรนด์โลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แทรนดาร์ อะคูสติก ผู้นำนวัตกรรมอะคูสติก เปิดผลวิจัย Sound effect on people มลพิษทางเสียงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ไม่ควรมองข้าม ชี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานถดถอย สุขภาพผู้ใช้อาคารแย่ลง ชี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเทรนด์ที่อยู่อาศัยยั่งยืน มีผลต่อการขับเคลื่อนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งอาคารให้เช่าที่พักอาศัย โรงแรม โรงเรียน เผยปี 64 งานปรับปรุงอาคารยังเติบโต 10% แม้เศรษฐกิจรับผลกระทบโควิด-19 เนื่องจากยังมีความต้องการปรับปรุงอาคาร สถานที่ คาดปีนี้แนวโน้มเติบโต 65% ตามเทรนด์ที่อยู่อาศัยยั่งยืนยังโตต่อเนื่องทั่วโลก

นายกฤษดา สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและที่ปรึกษาด้านอะคูสติก บริษัท แทรนดาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Trandar) ผู้นำด้านนวัตกรรมอะคูสติกเพื่องานก่อสร้างและตกแต่งภายใน เปิดเผยว่า ข้อมูลผลวิจัยของ Lessman ระบุว่า เสียงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อมนุษย์ พบผู้คนมีความพึงพอใจในสภาพแวดล้อมในการทำงานเพียง 33.4% นั่นเท่ากับว่าอีก 66.6% ไม่พึงพอใจกับสภาพแวดล้อมของเสียงในที่ทำงาน และยังพบว่าในกลุ่มงานที่ซับซ้อน หากทำงานในสภาพเสียงไม่ดี มีความดัง ส่งผลให้สมาธิในการทำงานลดลงถึง 50%

นอกจากนี้ การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า เสียงรบกวนต่างๆ ในที่ทำงานส่งผลให้คนทำงานมีสมาธิหรือโฟกัสกับงานได้น้อยลง และยังส่งผลต่อให้เกิดการลาป่วยมากขึ้น ชี้ให้ชัดเจนว่าเสียงรบกวน (Noise) เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญและสาเหตุที่ทำให้สุขภาพแย่ลง ซึ่งคนคนต้องใช้เวลา 60% ในการมีสมาธิจดจ่อ การถูกรบกวนจากเสียงนั้นจะทำให้ต้องใช้เวลาถึง 25 นาที จึงจะสามารถกลับมามีสมาธิอีกครั้ง และต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 8 นาที จึงจะกลับมามีสมาธิเท่าเดิม และยังส่งผลทางอ้อมให้พนักงานมีความคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่ทำงานได้อีกด้วย

“ผลการวิจัยดังกล่าวสะท้อนว่า หากการออกแบบตกแต่งอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัยเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของเสียงที่ดีจะช่วยเพิ่มจุดขายให้โครงการ ปัจจุบันทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับการสร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมลพิษทางอากาศ ทางกลิ่น และทางเสียง จนเกิดข้อตกลงเพื่อการลดการปล่อยคาร์บอนในหลายประเทศเพื่อเป้าหมายของการเป็นคาร์บอนเป็นศูนย์ หรือ Net Zero แต่อีกหนึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกต้องเผชิญตลอด 24 ชั่วโมง นั่นคือปัญหาด้านมลพิษทางเสียง ปัญหานี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายฝ่ายได้มองข้าม หากปล่อยไว้ในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องอยู่อาศัยในแหล่งที่มีเสียงดังตลอดเวลา เช่น ผู้ที่พักอาศัยใกล้กับถนน สนามบิน ใกล้แม่น้ำลำคลองที่มีเรือสัญจรตลอดทั้งวัน โรงงานอุตสาหกรรม เสียงในอาคารสำนักงาน หรือแม้แต่เสียงดังที่เกิดจากผู้คนภายในบ้าน”

นายกฤษดา กล่าวต่อว่า แทรนดาร์ ได้จับมือกับบริษัท อีโคโฟน แซงโกแบ็ง จำกัด จากสวีเดน พัฒนาผลิตภัณฑ์อะคูสติกดูดซับเสียง (Sound absorption) คุณภาพสูง “อีโคโฟน โฟกัส เอฟ” (Ecophon Focus F) แผ่นฝ้าอะคูสติกที่ผลิตจากเส้นใยอะคูเทคคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน มีค่าการดูดซับเสียงสูง ซึ่งคุณสมบัติข้อนี้สำคัญมากต่อการลดเสียงก้อง เสียงสะท้อนภายในห้อง ลดผลกระทบของเสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญกับมนุษย์ (Sound effect on People) ช่วยทำให้อยู่ในสภาพแวดล้อมเสียงที่เหมาะสม ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกได้กำหนด

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติการกระจายแสงและสะท้อนแสงได้ดี ช่วยประหยัดพลังงานทำให้ทั้งห้องมีความสว่างทั่วถึงกัน รวมไปถึงตัวแผ่นยังได้รับการรับรองจากองค์กร Asthma and Allergy ของประเทศสวีเดนว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของอีโคโฟน โฟกัส เอฟ คือ ได้รับการรับรองมาตรฐานไม่ลามไฟ ตามมาตรฐาน EN จากยุโรป เพื่อตอกย้ำการเป็นแผ่นฝ้าอะคูสติกคุณภาพสูง และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ซึ่งหลังจากเปิดตัวในหลายประเทศ อีโคโฟน โฟกัส เอฟ (Ecophon Focus F) ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการตกแต่งภายในและวงการสถาปัตยกรรมทั้งในไทย และต่างประเทศ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหอประชุมอเนกประสงค์ อาคารสำนักงาน โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ห้องซ้อมดนตรีและสตูดิโอ หรือแม้กระทั่งการใช้กับห้องในบ้าน

สำหรับทิศทางการเติบโตของการก่อสร้างอาคารของไทยนั้นมองว่ายังเติบโตต่อเนื่อง แต่ในส่วนของอาคารสำนักงานนั้นจะเป็นการเติบโตที่เป็นไปตามเทรนด์ของการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน การให้ความสำคัญกับมลพิษทางอากาศ รวมถึงทางเสียง ในปีช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่ายอดขายผลิตภัณฑ์อะคูสติก เติบโตขึ้นเฉลี่ย 10% และในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 20% แม้ปีนี้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 แต่ยอดขายผลิตภัณฑ์อะคูสติกสะท้อนให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังดำเนินต่อไป การก่อสร้างอาคารสำนักงานยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ปี 2564 แทรนดาร์ได้รับงานปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางเสียงจากทางโรงเรียนนานาชาติ อาคารสำนักงาน และโรงแรมชั้นหลายแห่งที่ต้องการปรับปรุงสถานที่ เตรียมพร้อมบริการอีกครั้งหลังจากสถาณการณ์โควิดคลี่คลาย

อนึ่ง โครงสร้างของกลุ่มลูกค้าที่บริษัททำตลาด แบ่งเป็น 1.ตลาดอาคารสำนักงาน 2.สถานศึกษา และ 3.เฮลท์แคร์ ซึ่งในปีนี้ทางบริษัทจะขยายการบริการไปเจาะกลุ่มโรงแรมและสถานศึกษา เนื่องจากผลจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โรงแรมและโรงเรียน ต้องปิดและเปิดเพื่อป้องกัน ส่งผลให้บางโรงแรมและโรงเรียนหันมาปรับปรุงให้ดีขึ้น จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะเข้าไปนำเสนอบริการและขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ให้มากขึ้น

ปัจจุบัน ตลาดอะคูสติกในไทยมียอดขายประมาณ 2 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) หรือมูลค่าตลาดประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15%
กำลังโหลดความคิดเห็น