หุ้นไทยปิดตลาดปิด +6.27 จุด โบรกฯ ชี้หุ้นไทยบวกตามเม็ดเงินไหลเข้าจากต่างประเทศ หลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่แรงตามที่ประเมินไว้ แม้ว่าความตึงเครียดของสงครามระหว่าง "รัสเซียและยูเครน" ยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนไม่เลิก พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,680 จุด และแนวต้านที่ 1,700 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 2 มี.ค.2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.27 จุด หรือ +0.37% โดยปิดตลาดที่ +1,696.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 113,829.10 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,705.50 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,691.20 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 976 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 480 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 908 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,853.39 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,170.14 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -77.36 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -605.89 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 7,021.01 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 6,182.53 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 5,687.28 ล้านบาท ปิดที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,544.82 ล้านบาท ปิดที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,289.83 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AOT ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 3.19%
2.BBL ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.49%
3.AEONTS ปิดที่ 201.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.01%
4.ADVANC ปิดที่ 238.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.85%
5.TIDLOR ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 4.67%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EA ปิดที่ 91.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ 4.21%
2.EGCO ปิดที่ 177.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 1.94%
3.GPSC ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 3.08%
4.TOP(XD) ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 3.23%
5.JMT ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.59%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,325.37 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุด หรือ 0.29% ดัชนี SET50 ปิดที่ 1,026.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด หรือ 0.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 638.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด หรือ 0.25%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ภาพรวม SET INDEX วันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องการลงทุนของตลาดอื่นๆ ตอบรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่รุนแรงมากนัก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ควรประมาท เพราะเมื่อดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,700 จุด คาดว่าน่าจะมีแรงเทขายออกมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่แนวโน้มวันพรุ่งนี้ (4 มี.ค.) มองว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อ โดยนักลงทุนยังคงจับตาถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในคืนนี้ โดยประเมินแนวรับที่ 1,680 จุด และแนวต้านที่ 1,700 จุด