หุ้นไทยปิดตลาด + 9.10 จุด หลังตลาดแสดงท่าที่ผ่อนคลายมากขึ้น จากการที่รัสเซีย และ ยูเครน เตรียมที่จะตั้งโต๊ะเจรจายุติสงคราม แนะจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐของธนาคารกลางสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค.นี้ พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,674-1,680 จุด และแนวต้านที่ 1,700-1,704 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดการซื้อขายวันที่ 1 มีนาคม 2565 ปรับตัวขึ้น +9.10 จุด หรือ +0.54% โดยปิดตลาดที่ 1,694.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 91,815.23 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,701.69 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,690.82 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,089 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 534 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 741 หลักทรัพย์
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 4,022.22 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,905.83 ล้านบาท ส่วน บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -113.38 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -3.01 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,014.48 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,379.30 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,196.43 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
4.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,867.12 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,600.93 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท หรือ 6.19%
2.ADVANC ปิดที่ 237.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาทหรือ 3.49%
3.OSP ปิดที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 5.67%
4.MEGA ปิดที่ 44.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 4.07%
5.RBF ปิดที่ 17.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 9.49%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่ 137.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 2.14%
2.SCC ปิดที่ 390.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.51%
3.EGCO ปิดที่ 177.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.11%
4.AEONTS ปิดที่ 195.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.02%
5.BLA ปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 3.41%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,318.18 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ 0.56% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 1,021.67 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด หรือ 0.50% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 639.64 จุด เพิ่มขึ้น 5.22 จุด หรือ 0.82%
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแดนบวกตามดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆในต่างประเทศ โดยได้รับ Sentiment เชิงบวกหลังตัวแทนจากยูเครนกับรัสเซียตกลงที่จะจัดการเจรจาเพื่อหาทางออกต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างต่อเนื่อง ว่าจะมีพัฒนาการอย่างไรต่อไป ในขณะเดียวกันให้ติดตามท่าทีของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวถึงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค.นี้
ขณะที่แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่ง Sideway ต่อเนื่อง โดยยังคงติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน พร้อมให้แนวรับ 1,674-1,680 จุด และแนวต้าน 1,700-1,704 จุด