ศาลฎีกาพิจารณาคดีการระดมทุนด้วยคริปโตฯ ถือว่าเป็นการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งมีอัตราโทษตามความผิดจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับไม่เกิน 79,000 ดอลลาร์
ศาลฎีกาของจีนตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดีว่าธุรกรรมสินทรัพย์เสมือนบางรายการสามารถถือเป็น "การระดมทุนที่ผิดกฎหมาย" ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับการดำเนินคดีต่ออุตสาหกรรมคริปโตฯ และอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน
ขณะที่ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน และหน่วยงานนิติบัญญัติด้านตุลาการอื่นๆ ได้ประกาศว่า ธุรกรรม crypto เป็นการระดมทุนที่ผิดกฎหมายในเดือนกันยายน ในปี 2564 ซึ่งคำตัดสินของศาลอย่างเป็นทางการ ระบุว่าเป็นอาชญากรรม และกำหนดบทลงโทษที่เกี่ยวข้อง
คำวินิจฉัยเมื่อวันพฤหัสบดีกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 176 ของกฎหมายอาญาของจีน โดยกำหนดระวางอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 10 ปี และปรับระหว่าง 50,000 หยวน (7,900 ดอลลาร์สหรัฐ) และ 500,000 หยวน (79,000 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมากซึ่งจัดเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงน้อยกว่าจะถูกดำเนินคดีโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับ 20,000 หยวน (3,160 ดอลลาร์) ถึง 200,000 หยวน (31,600 ดอลลาร์) ตามกฎหมายอาญา
โดยการแก้ไขข้อกฏหมายนี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวตั้งเป้าหมายการระดมทุนที่ผิดกฎหมายผ่านธุรกรรมคริปโตฯ เมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏว่าตรงตามเงื่อนไข 4 ประการ
ขณะที่ Shi Lei ทนายความ อนุญาโตตุลาการ และวิทยากรในจีน อธิบายว่า สิ่งเหล่านี้คือการระดมทุนสาธารณะโดยผู้ระดมทุนไม่มีเป้าหมายการระดมทุนที่ชัดเจน ขณะที่การสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินทุนและดอกเบี้ย และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
ด้าน Kendra Schaefer หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีที่ Trivium ซึ่งเป็นที่ปรึกษาในกรุงปักกิ่งเปิดเผยกับทาง CoinDesk ว่า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านคริปโตฯ บางแห่งให้ผลตอบแทนสูงแก่นักลงทุน แต่สิ่งเหล่านี้สนับสนุนการลงทุนที่มีการเก็งกำไรสูง ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลของจีนพยายามกำจัด เนื่องจาก “เป็นการปราบปรามเก็งกำไร”
อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังคงปราบปรามอุตสาหกรรมนี้ต่อไป โดยพื้นที่จังหวัดทางตะวันออกของเจ้อเจียง ประกาศเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าในวันพุธสำหรับการขุด crypto โดยเข้าร่วมกับไห่หนาน และมองโกเลียใน
