xs
xsm
sm
md
lg

LH Bank ตั้งเป้าสินเชื่อโต 6-7% เจาะลูกค้ารายกลาง-ย่อย ลุยหาพันธมิตรเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ชูกลยุทธ์ ปี 2565 ยกระดับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแบบครบวงจร แนะนำวางแผนการเงินการลงทุน พร้อมชูความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า และพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อสอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน พร้อมตั้งเป้าสินเชื่อโต 6-7% เจาะกลุ่มรายกลาง-ย่อย ขยายฐานสู่ภูมิภาค แย้มอยู่ระหว่างดีลพันธมิตรหนุน

น.ส.ชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank
กล่าวว่า ปี 2565 ธนาคารมีแผนขยายสินเชื่อเติบโต 6-7% และยังคงเน้นขยายฐานลูกค้าสินเชื่อในภาคอุตสาหกรรมที่เห็นว่ามีแนวโน้มเติบโต การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการธุรกรรมต่างประเทศในรูปแบบดิจิทัล (Digital Trade Finance) และเร่งขยายสินเชื่อบุคคล การปรับโครงสร้างภายใน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว การปรับภาพลักษณ์สาขาให้มีความ Premium การยกระดับการให้บริการพร้อมกับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างมืออาชีพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความมั่งคั่งที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์กองทุนรวม และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตรูปแบบต่างๆ รวมทั้งธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่องต่อไปเพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ การขยายสินเชื่อของธนาคารในปีนี้นั้น จะมุ่งขยายฐานไปในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง และสินเชื่อบุคคลมากขึ้น โดยจะต่อยอดไปที่ซัปพลายเชนของกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของธนาคาร ซึ่งจะเป็นการปรับโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคารเพื่อให้มีผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 2-3% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 15-16% พร้อมกันนั้น จะพัฒนาดิจิทัล เลนดิ้งที่จะช่วยขยายพอร์ตสินเชื่อรายย่อยได้ซึ่งน่าจะเริ่มใช้ได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า รวมถึงการขยายกลุ่มลูกค้าไปตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดโดยใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วย และเพิ่มความร่วมมือพันธมิตรที่อยู่ระหว่างการทำดีล ดิลิเจนต์เพื่อขยายฐานไปสู่ลูกค้าของพันธมิตรด้วย ขณะที่กลุ่มลูกค้า Wealth ธนาคารได้มีการปรับรูปแบบสาขาให้เหมาะสม โดยตั้งเป้าปรับเปลี่ยนรูปแบบสาขาในปีนี้เพิ่มอีก 7 แห่ง

"เมื่อก่อนลูกค้าเราส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขนาดใหญ่ทำให้อัตราผลตอบแทนค่อนข้างบาง การลงมาที่ระดับกลางและรายย่อยมากขึ้นจะทำให้รายได้เราสูงขึ้น อย่างลูกค้าสินเชื่อบ้านจะเป็นกลุ่มราคา 7 ล้านบาทขึ้นไป ตอนนี้เราก็จะลดลงมาและขยายออกไปตามหัวเมืองต่างๆ มากขึ้น น่าจะทำให้สินเชื่อบ้านเราเติบโตได้ดี คาดการณ์ที่ประมาณ 20% ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล จะพยายามบริหารจัดการให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3% จากปลายปีก่อนที่ 2.4% ซึ่งการปล่อยสินเชื่อของธนาคารยังคงดำเนินไปอย่างระมัดระวัง และยังคงให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง"

พร้อมกันนั้น ธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด Customer Centric ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีส่งมอบให้ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกวัย ธนาคารเปิดให้บริการเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษ Pro-Fit Digital Savings ที่ได้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.5% ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี รวมถึงบริการแอปพลิเคชัน Profita เพื่อสนับสนุนการซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนที่รองรับคำสั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมฟีเจอร์มากมายช่วยให้ลงทุนได้อย่างรวดเร็วทันสถานการณ์ อัดแน่นข้อมูลกองทุนแบบจัดเต็ม ทั้งจากกองทุนระดับโลกที่ผ่านการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ แบบกระชับเข้าใจง่ายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้ามีความพร้อมก้าวสู่มือโปรด้านการลงทุน โดยธนาคารตั้งเป้าหมายมีจำนวนผู้ใช้แอปพลิเคชันในสัดส่วน 50% ของจำนวนลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 200,000 ราย

นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยกลยุทธ์ปี 2565 ว่า เมื่อเดือนกันยายน 2564 CTBC Bank ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนอันดับ 1 ในไต้หวัน ได้ถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 35.62 เป็นร้อยละ 46.61 ของทุนที่ชำระแล้ว และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ นับเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและเติบโตของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในการก้าวสู่ระดับนานาชาติ

โดยกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะนำศักยภาพด้านดิจิทัลแบงกิ้ง และความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้วยแพลตฟอร์มโซลูชันทางการเงินที่ครบวงจรของ CTBC Bank ที่จะร่วมพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด Customer Centric และเร่งขยายธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งเร่งขยายฐานลูกค้าโดยส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เงินฝาก ธุรกรรมด้านต่างประเทศ ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย การลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการและมีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด

ด้านธุรกิจ Trade Finance นั้นจะมุ่งเน้นการนำลูกค้าไต้หวันของธนาคารที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งในการพัฒนาธุรกิจ Trade Finance เฟส 2 นี้ ตั้งเป้าจำนวนลูกค้าที่ 500 รายใน 5 ปี ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนนั้น มองว่าไม่น่าจะกระทบกับธุรกิจส่งออก-นำเข้าของไทยมากนัก เนื่องจากมีปริมาณธุรกรรมที่ค่อนข้างน้อย แต่จะส่งผลกระทบด้านราคาพลังงานที่สูงขึ้นมากกว่าโดยเฉพาะหากสถานการณ์มีความยืดเยื้อ

ด้านนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund กล่าวว่า ปี 2565 บริษัทยังคงเน้นการเติบโตของสินทรัพย์โดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่แบบ Asset Allocation มากกว่าที่จะเน้นเป็นรายสินทรัพย์ (Single Asset) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีพฤติกรรมการลงทุนไม่เหมือนกัน รวมทั้งการเพิ่มฐานลูกค้าประเภทสถาบัน และเน้นกลุ่มลูกค้า Ultra High Net Worth รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายรูปแบบใหม่ๆ ผ่าน Digital Platform เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น

สำหรับภาพรวมการบริหารจัดการกองทุนในปี 2564 บริษัทมีขนาดกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ นับรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) มีมูลค่าประมาณ 63,851 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% สำหรับกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) มีขนาดกองทุน 9,418 ล้านบาท เติบโตประมาณ 12% ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) มีขนาดกองทุน 5,808 ล้านบาท เติบโตประมาณ 56%

นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities กล่าวว่า ปี 2565 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และจากเครือข่ายความเชี่ยวชาญระดับโลกของ CTBC Bank รวมถึงการสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน การเพิ่มช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น การเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนแบบออนไลน์ การขยายลูกค้าในกลุ่ม Mass ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เติบโตอย่างโดดเด่นในตลาดการเงินของไทย

"ปี 2564 เป็นอีกหนึ่งปีที่ถือได้ว่าเราประสบความสําเร็จในหลายด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่ๆ (Ecosystems) เช่น บริการจองหุ้นเพิ่มทุนออนไลน์ (E-RO) บริการวางหลักประกันผ่าน QR Payment เป็นต้น"

สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2564 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิจำนวน 1,383.7 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32.7 เมื่อเทียบกับปี 2563 จากการตั้งสำรองเข้ม แม้ NPLs จะลดลงจากร้อยละ 2.77 เมื่อสิ้นปี 2563 เหลือร้อยละ 2.44 เมื่อสิ้นปี 2564 และจะเห็นได้ว่าอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) เพิ่มขึ้นจาก 148.4% เมื่อไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เป็น 179.1% ณ สิ้นปี 2564 โดยเมื่อ CTBC Bank เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เมื่อเดือนกันยายน 2564 ซึ่ง CTBC Bank เห็นว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงมีความเห็นให้ธนาคารตั้งสำรองเพิ่มขึ้นจาก 1,738.0 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนของปี 2564 เป็น 3,283.8 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินกลยุทธ์ในปี 2565 ซึ่งธนาคารจะเร่งขยายธุรกิจและขยายสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น

ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 18.4% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.1% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ 11.0% และ 8.5% ตามลำดับ ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)


กำลังโหลดความคิดเห็น