หุ้นในกลุ่มพลังงานเริ่มขานรับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งทะยาน ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเป็นแถว โดยเฉพาะหุ้นบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ซึ่งพุ่งขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี
ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถานการณ์สงครามในประเทศยูเครน เป็นตัวเร่งให้ราคาน้ำมันทะยานทะลุ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงกลั่นและกลุ่มปิโตรเคมี
ก่อนหน้านั้น หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มอื่น เช่นหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ราคาย่ำอยู่แถว 30 บาทปลายๆ หรือเป็นราคาที่น้ำมันยังอยู่ที่ประมาณ 40-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สะท้อนให้เห็นว่า หุ้นกลุ่มพลังงานแทบไม่ตอบรับราคาน้ำมัน แม้ราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นเท่าตัวก็ตาม
สำหรับ PTTEP เคลื่อนไหวในระดับ 120-130 บาทมาตั้งแต่ต้นปี และเป็นหุ้นที่ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก แม้ว่าต่างชาติจะขนเงินกลับมาไล่ซื้อหุ้น แต่แทบไม่ได้ซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมทั้ง PTTEP
แต่ราคาน้ำมันที่วิ่งไม่หยุดจนทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานโดดเด่นขึ้นมาทันที เพราะหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มอื่นวิ่งแซงหน้าไปแล้ว แต่หุ้นพลังงานส่วนใหญ่ย่ำฐาน ทั้งที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แรงซื้อจึงเริ่มไหลกลับเข้ามา โดยเฉพาะ PTTEP จนราคาขยับขึ้นไปปิดที่ 137.50 บาท เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 12 เดือน
PTTEP เป็นหุ้นวัฏจักร ราคามักขึ้นลงไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน โดยอดีตเคยเป็นหุ้นในความสนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ แต่ราคาน้ำมันที่ผันผวน ทำให้หลุดจากความเป็นหุ้นยอดนิยมของนักเก็งกำไร
โครงสร้างผู้ถือหุ้น PTTEP ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 63.79% ของทุนจดทะเบียน นอกนั้นเป็นนักลงทุนประเภทสถาบันทั้งในต่างประเทศ โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 44,250 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 34.69% ของทุนจดทะเบียน
ค่าพี/อี เรโช หุ้น PTTEP อยู่ที่ 14 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.64% ถือเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรอบ ขณะที่ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้น หลังปี 2563 กำไรสุทธิชะลอตัวลง โดยปี 2564 มีกำไรสุทธิ 38,863.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 22,664.01 ล้านบาท และปี 2562 มีกำไรสุทธิ 48,802.54 ล้านบาท
พิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน PTTEP จัดอยู่ในหุ้นที่เหมาะสำหรับการถือเพื่อลงทุนระยะยาว โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลคุ้มกับการลงทุน เมื่อเทียบกับการฝากเงินหวังผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย และจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนนักเก็งกำไรระยะสั้นจะต้องรอจังหวะเล่นไปตามรอบเมื่อมีปัจจัยกระตุ้น โดยการที่หุ้นกลับมาสู่ความคึกคักรอบนี้ เนื่องจากปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน ทำให้คาดการณ์ว่า ผลประกอบการ PTTEP จะเติบโตสูง นักเก็งกำไรจึงแห่เข้ามาไล่ซื้อหุ้น
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะพุ่งทะยานต่อไป หากสงครามยูเครนยังไม่สงบ หุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่นและกลุ่มปิโตรเคมี จึงมีโอกาสปรับฐานขึ้นต่อ รวมทั้ง PTTEP แต่ถ้าราคาน้ำมันดิ่งลง จะเป็นการปิดรอบหุ้นกลุ่มพลังงาน
นักลงทุนที่จะตามแห่เก็งกำไรต้องเผื่อใจสำหรับการถือเพื่อลงทุนระยะยาวไว้บ้าง เพราะ PTTEP คงจะเล่นกันเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น
หมดประเด็นยูเครน ราคาน้ำมันกลับสู่ภาวะปกติ หุ้น PTTEP จะกลับสู่ความสงบ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่พร้อมจะถือยาวเท่านั้น
