น.ส.สุทธิรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานกรรมการ บริษัทบี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานบริษัทและบริษัทย่อยงวดปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 129ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 186.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 326% เมื่อเทียบกับปี 2563 ขาดทุนสุทธิ จำนวน 57 ล้านบาท มี EBITDA จำนวน 264.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน 0.095 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 264.7 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีรายได้รวมสำหรับปี 2564 อยู่ที่ 360.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.35 ล้านบาท หรือ 3% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 349.54 ล้านบาท
โดยในปี 2564 บริษัทมีกำไรจากการแบ่งส่วนกำไรจากบริษัทร่วม ซึ่งได้แก่ บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด GA Power Pte.Ltd และ บริษัท ซีพีเอส ชิปปิ้งแอนด์โลจีสติกส์ จำกัด จำนวนรวม 42 ล้านบาท จากปีก่อนหน้านี้บริษัทขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 12.75 ล้านบาท
“ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ B พลิกมีกำไรสุทธิในงวดปี 2564 เป็นการทุบสถิตผลประกอบการก็ว่าได้ตั้งแต่ปี 2561 เราขาดทุน 49 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุน 28 ล้านบาทและปี 2563 ขาดทุน 57 ล้านบาท ซึ่งการพลิกมีกำไรรอบนี้เป็นผลจากที่กลุ่ม B ปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มใหม่ โดยโฟกัสธุรกิจ Green Logistics และ Green Utilities รวมทั้งล่าสุดบริษัทร่วมทุนของเรามีแผนที่เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทุกธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุนเป็นกลุ่มที่มีอนาคต โตตามเทรนด์โลก” น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของธุรกิจหลักคือ ธุรกิจโลจิสติกส์ที่มุ่งเป็น Green Logistics และธุรกิจสาธารณูปโภคทั้งกลุ่มพลังงานทางเลือกและธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบ รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ ที่กลุ่ม B ได้เข้าไปลงทุนเพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัท ต่างเริ่มทยอยส่งส่วนแบ่งกำไรกลับเข้ามา สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์การลงทุนของบริษัทที่โฟกัสในธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ของโลก และมีแนวโน้มเติบโตที่ดี ซึ่งในปี 2565 บริษัทคาดว่าผลประกอบการทั้งกำไร และรายได้จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน